ไม่พบผลการค้นหา
“เพื่อไทย” จี้ “ประยุทธ์” เร่งช่วย SMEs ท่องเที่ยว ห่วง ขาดสภาพคล่อง ตัวเลขว่างงานพุ่ง แนะ เร่งฉีดวัคซีน ออกซอฟท์โลน และ สนับสนุนการจ้างงาน รวมทั้งรับฟังภาคธุรกิจท่องเที่ยว

จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ รองเลขาธิการ และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า ในวิกฤติการณ์ไวรัสโควิดนี้ นักท่องเที่ยวกว่า 40 ล้านคนที่เข้ามาเที่ยวไทยต้องหยุดการเดินทาง รายได้ที่เคยเข้าประเทศประมาณ 1.9 ล้านล้านบาทต้องหายไป ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่รัฐบาล กลับไม่ได้มีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาธุรกิจท่องเที่ยวแต่อย่างใด

"อยากให้รัฐบาลได้ฟังคำร้องขอของ นักธุรกิจใหญ่ทางด้านการท่องเที่ยว เช่น นายวิลเลียม ไฮนากี้ เจ้าของไมเนอร์กรุ๊ป และ นายแพทย์ปราเสริฐประสาททองโอสถ เจ้าของบางกอกแอร์เวย์ ที่ต้องออกมาโวยการบริหารของรัฐบาล เพื่อได้พิจารณาแก้ไข ซึ่งหลายประเด็นเป็นเรื่องน่าจะต้องนำมาพิจารณา" จักรพลกล่าว

ดังนั้น คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยจึงขอเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ได้เร่งช่วยเหลือเยียวยา ธุรกิจ SMEs ด้านการท่องเที่ยวก่อนที่จะล้มหายตายจากกันหมด

"อยากให้รัฐบาลได้ประสานกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย ในการออกซอฟท์โลนแก่ธุรกิจ SMEs ท่องเที่ยวในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ หรือ 0% ได้จะยิ่งดี เพื่อให้ประคองให้ผ่านพ้นภาวะวิกฤติเศรษฐกิจช่วงนี้ไปได้ ก่อนที่การท่องเที่ยวของไทยจะฟื้นตัวกลับมา" จักรพลกล่าว

ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลช่วยอุดหนุนการจ้างงานของแรงงานภาคท่องเที่ยวด้วย เพราะย่ำแย่กันมานาน ห่วงว่าจะตกงานกันหมด

"โดยรัฐอาจจะพิจารณาช่วยออกค่าจ้าง 50% เพื่อประคองการจ้างงาน แทนที่รัฐบาลจะไปสร้างงานใหม่ 250,000 ตำแหน่งตามที่รัฐบาลเคยพูดไว้เองแต่ไม่รู้จะจ้างไปทำอะไร ก็น่าจะนำเงินนี้มาช่วยรักษาการจ้างงานไม่ให้คนตกงานก็จะได้ผลเช่นเดียวกัน"

นอกจากนี้การที่จะต้องเร่งนำเข้าวัคซีนเพื่อฉีดให้กับประชาชนโดยทั่วถึงก็จะเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เพราะจะทำให้การท่องเที่ยวฟื้นกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้มีข้อเสนอ 4 ข้อของนักธุรกิจใหญ่ด้านท่องเที่ยวคือ

1) ให้เพิ่มกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านการให้บริการเข้าไปในกลุ่มผู้รับวัคซีนระยะแรก

2)พิจารณาทางเลือกเกี่ยวกับวัคซีนให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วน

3) อนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนสามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องมีการกักตัว

4) เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาพร้อมกับ “หนังสือเดินทางการวัคซีน” ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องนำมาพิจารณาเพื่อเร่งดำเนินการ ไม่ใช่ปล่อยผ่าน หรือเอาแต่คิดแล้วไม่เร่งทำ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาประเทศไทย และ รัฐบาล ได้ประโยชน์จากธุรกิจท่องเที่ยวที่ขยายตัวมาตลอดทำให้เศรษฐกิจไทยยังพอขับเคลื่ยนไปได้ แม้การส่งออกและการลงทุนจะไม่ดีนัก แต่เมื่อมาเจอกับวิกฤติไวรัสโควิด ทำให้การท่องเที่ยวหยุดชะงัก

"รัฐบาลจึงควรต้องหาทางช่วยเหลือเพื่อให้ธุรกิจท่องเที่ยวนี้ผ่านพ้นไปได้ โดยเฉพาะประชาชนที่ทำงานในธุรกิจนี้ ที่รัฐบาลจะต้องช่วยให้พวกเขาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ อย่าปล่อยพวกเขาตามยถากรรมเพราะเดือดร้อนหนักเป็นอย่างมาก อย่าปล่อยให้พวกเขาเผชิญความลำบากโดยลำพังโดยรัฐบาลไม่เหลียวแล ซึ่งหากพลเอกประยุทธ์ทำไม่ได้ หรือ ไม่เข้าใจ ก็ควรจะเสียสละให้คนที่เขารู้เรื่องเข้ามาทำแทน ประชาชนจะได้ไม่ลำบากขนาดนี้" จักรพลกล่าว