ผู้แปรพักตร์เกาหลีเหนือในเกาหลีใต้เตรียมส่งสินค้าบริโภคบรรจุขวดพลาสติกเข้าไปยังเกาหลีเหนืออีกครั้ง แม้ว่าเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเกาหลีเหนือได้ปฏิบัติการระเบิดสำนักงานประสานงานร่วมของทั้ง 2 เกาหลี
'พัค จุงโฮ' หัวหน้ากลุ่มผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือกลุ่มกึนแซมกล่าวว่า ทางกลุ่มเตรียมส่งข้าวสาร ยา และหน้ากากอนามัยบรรจุลงในขวดพลาสติกก่อนจะปล่อยลงสู่ทะเลใกล้กับชายแดนเกาหลีเหนือ - ใต้ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ (21 มิ.ย.)
ทั้งนี้ ข้าวสารจะถูกบรรจุอยู่ในขวดพลาสติดขนาด 2 ลิตร ซึ่งแต่ละขวดจะบรรจุข้าวสารประมาณ 1.5 กิโลกรัม รวมที่ส่งไปทั้งหมด 700 กิโลกรัม
ที่ผ่านมากลุ่มผู้แปรพักตร์กลุ่มนี้จะส่งสินค้าอุปโภคบรรจุขวดลอยลงสู่ทะเลเดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งทางกลุ่มทำมาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปีแล้ว และไม่เพียงแต่กลุ่มกึนแซม ผู้แปรพักตร์หลายกลุ่มยังส่งใบปลิวและข้อความโจมตีเกาหลีเหนือ รวมถึงการส่งสินค้าอุปโภคต่างๆ ไปทางอากาศด้วย
เมื่อต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา คิมโยจอง น้องสาวคิมจองอึนออกมาประณามการกระทำของกลุ่มผู้แปรพักตร์เกาหลีเหนือ พร้อมทั้งเรียกร้องให้เกาหลีใต้จัดการกลุ่มดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเกาหลีเหนือได้ระเบิดสำนักงานประสานงานร่วมระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ โดยอ้างว่าเกาหลีใต้ไม่สามารถจัดการกับการกระทำของกลุ่มผู้แปรพักตร์ได้
ขณะที่ ในวันนี้ (18 มิ.ย.) 'โรดงชินมุน' หนังสือพิมพ์ทางการของเกาหลีเหนือระบุว่า การระเบิดสำนักงานประสานงานร่วมของเกาหลีเหนือละเกาหลีใต้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น และทางรัฐบาลเกาหลีเหนือยังออกมาเตือนว่า ในขั้นต่อไปเกาหลีใต้อาจจะเจอผลลัพธ์ที่ยากจะจินตนาการได้
นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังกล่าวว่า จะเพิ่มทหารเข้าไปในเขตปลอดทหารที่ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ รวมทั้งการฟื้นกำลังทางการทหารในเขตดังกล่าวให้กลับมาอยู่ในระดับปกติ หลังจากที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้ตกลงลดกำลังทางการทหารลงในปี 2561
ด้าน 'โดนัลด์ ทรัมป์' ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (17 มิ.ย.) ว่า สหรัฐฯขยายระยะเวลาคว่ำบาตรเกาหลีเหนือออกไปอีก 1 ปี โดยระบุว่า สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลียังคงอยู่ในความเสี่ยงการใช้ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือและนโยบายของเกาหลีเหนือยังเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงกับสหรัฐฯ
นอกจากนี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังกล่าวว่า ท่าทีและนโยบายของเกาหลีเหนือยังคงเป็นภัยคุกคามต่อคาบสมุทรเกาหลีและกองทัพสหรัฐฯ พันธมิตรและคู่ค้าภายในภูมิภาคด้วยเช่นกัน
ที่มา Reuters / yonhap / koreaherald
ข่าวที่เกี่ยวข้อง