CNN อ้างอิงถ้อยแถลงของ คิมโยจอง น้องสาวของคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ จากสำนักข่าวแห่งชาติเกาหลีเหนือซึ่งระบุว่า "เราขอใช้โอกาสนี้ในการเตือนรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯที่พยายามอย่างหนักในการ 'ปล่อยกลิ่นดินปืน' เข้ามายังแผ่นดินของพวกเรา"
เธอยังกล่าวอีกด้วยว่า "หากรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการนอนหลับอย่างสงบในช่วงเวลา 4 ปีต่อจากนี้ ก็ควรที่จะระงับการก่อให้เกิดปัญหาใดๆ ในช่วงแรกของการขึ้นสู่ตำแหน่ง"
คำเตือนดังกล่าวถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกจากเกาหลีเหนือ นับตั้งแต่ โจ ไบเดน ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยถ้อยแถลงของ คิมโยจอง มีขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้มีแผนร่วมกันฝึกซ้อมทางการทหาร
ขณะที่โทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้เดินทางถึงเกาหลีใต้เรียบร้อยแล้ว เพื่อที่จะร่วมวงเจรจากับผู้แทนของชาติพันธมิตรทั้งสองอย่างเกาหลีเหนือและญี่ปุ่น
เมื่อวันจันทร์ที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวแถลงต่อสื่อมวลชนว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีความพยายามในการติดต่อไปยังรัฐบาลเกาหลีเหนือ ซึ่งโดยปกติแล้วจะสามารถติดต่อได้หลายช่องทาง ซากีระบุว่า "วิธีทางการทูตคือเป้าหมายสำคัญที่เรายึดถือมาโดยตลอด เป้าหมายของเราคือการลดการยกระดับ(ความขัดแย้ง) แต่จนถึงปัจจุบันเรายังไม่เคยได้รับการตอบสนองใดๆ จากรัฐบาลเกาหลีเหนือ"
ปัจจุบันรัฐบาลของไบเดนกำลังเดินหน้า 'ทบทวนนโยบายเกาหลีเหนือ' ที่ถูกดำเนินการภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาวุโสจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะมีการประกาศนโยบายเกาหลีเหนือใหม่ตามแนวทางของไบเดนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
มีความเป็นไปได้สูงมากว่าโจ ไบเดน คงไม่ "ส่งจดหมายรักถึงคิมจองอึน" แต่หนึ่งในสิ่งที่รัฐบาลนี้น่าจะเดินหน้าทำอย่างจริงจังต่อก็คือกระบวนการเจรจาเพื่อให้เกาหลีเหนือนั้น ปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมีแนวโน้มสูงมากว่าเกาหลีเหนือไม่น่าจะเดินตามแนวทางนี้ง่ายๆ