ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า หลังการชุมนุมของกลุ่มราษฎร #ราษฎรประสงค์ยกเลิก 112 ที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2564 ยุติลง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมคนขับและผู้ติดตามบนรถเครื่องเสียง และรถห้องน้ำเคลื่อนที่ รวม 4 คน อ้างเหตุเข้าร่วมชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์กับกลุ่ม “ราษฎร” เสนอชื่อยกเลิกมาตรา 112 โดยผู้ถูกจับกุมเป็นสมาชิกเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี 2 ราย และนักกิจกรรมอิสระสูงวัย อีก 2 ราย ก่อนแจ้งข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยึดของบนรถทั้งหมด และให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยมี เบนจา แสงจันทร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ใช้ตำแหน่งวางประกันแทนหลักทรัพย์ คนละ 10,000 บาท ทั้งสี่ได้รับการปล่อยตัวจาก สน. ลุมพินี ประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 1 พ.ย. 2564 

หลังยุติการชุมนุม #ราษฎรประสงค์ยกเลิก 112 ของกลุ่ม “ราษฎร” ที่แยกราชประสงค์ เพื่อเปิดการรณรงค์รวบรวมรายชื่อ 10,000 ชื่อ เสนอร่างกฎหมายยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ต่อสภา โดยมีข้อเรียกร้องให้ผู้พิพากษาคืนสิทธิประกันตัวนักกิจกรรมทางการเมืองที่ยังถูกคุมขัง และให้รัฐสภาดำเนินการยกเลิกกฎหมายนี้ 

ในเวลาประมาณ 21.33 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบไม่ทราบสังกัดจำนวนมากดักจับรถเครื่องเสียงของเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรีบนทางด่วน ขณะที่รถเครื่องเสียงเดินทางกลับ ผู้ไลฟ์สดเฟซบุ๊กของกลุ่มเล่าสถานการณ์ว่า มีเจ้าหน้าที่ส่องไฟมาทางรถพวกตน และใช้รถเก๋งที่ไม่มีตราสัญลักษณ์ทางราชการชัดเจนติดตามมา โดยผู้รายงานสดบอกว่าตำรวจจะพาพวกตนไปที่ บช.ปส. ภายในบริเวณสโมสรตำรวจ ทั้งนี้ หลังเวลาที่ได้รับแจ้งข่าวการจับกุม ทนายความไม่สามารถติดต่อบุคคลที่ถูกจับได้แล้ว ได้แต่เพียงติดตามสถานการณ์จากผู้แจ้งข่าวเท่านั้น  

ต่อมาเวลาประมาณ 21.50 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งจากลำไย จันทร์งาม คนขับรถเครื่องเสียงและรถห้องน้ำเคลื่อนที่ว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจากที่ชุมนุม และถูกจับกุมที่บางนา พร้อมป้าสำราญ (สงวนนามสกุล) ซึ่งขอติดรถมาด้วย ตำรวจแจ้งว่าจะพาตัวไปที่ สน. บางนาก่อน และจะส่งตัวต่อไปที่ สน. ลุมพินี เพื่อแจ้งข้อหา     

จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.15 น. ทั้ง 4 คน ถูกควบคุมตัวมาที่ สน. ลุมพินี อันเป็นท้องที่เกิดเหตุ ในขณะที่บริเวณ บช.ปส. ทนายความได้ติดตามไป แต่กลับพบว่าสถานที่นั้นเงียบและปิดไฟมืด ไม่พบคนของเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรีตามที่รายงานสดได้แจ้งไว้ว่าตำรวจจะนำตัวมาควบคุมไว้

มีข้อสังเกตว่า รถเครื่องเสียงทั้งสองคันตกเป็นเป้าหมายการจับกุมของตำรวจจากการเข้าร่วมการชุมนุม แต่การจับกุมไม่ได้กระทำขณะทั้งสี่เข้าร่วมการชุมนุมหรืออยู่ในที่ชุมนุมที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นความผิด กลับเข้าจับกุมหลังออกจากที่ชุมนุมและอยู่ระหว่างเดินทางกลับ ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการจับกุมซึ่งหน้า 

การจับกุมในลักษณะนี้พนักงานสอบสวนจะต้องขออนุมัติหมายจับจากศาลก่อน และนำมาแสดงต่อผู้ถูกจับ หรือออกเป็นหมายเรียก การจับกุมโดยไม่มีหมายจับดังกล่าวจึงเข้าข่ายเป็นการจับกุมโดยมิชอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้วิธีการเช่นนี้เข้าจับกุมและยึดรถเครื่องเสียงของลำไย, เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี และรถเครื่องเสียงคันอื่นที่เข้าร่วมการชุมนุมหลายครั้งแล้วก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ในวันที่ 31 ต.ค. ผู้สื่อข่าววอยซ์ รายงานด้วยว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปล็อคล้อรถยนต์ที่ใช้ในการขนของ กลุ่มทะลุฟ้าจำนวน 2 คัน ซึ่งจอดไว้ใกล้กับหอพักอินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีการติดป้ายกับกำว่าเป็นวัตถุพยานในคดีห้ามเคลื่อนย้าย แต่ไม่มีการแจ้งว่าเป็นคดีใด ทั้งนี้สมาชิกกลุ่มทะลุฟ้า เปิดเผยด้วยว่า หลังจากเดินทางออกจากพื้นที่ชุมนุม พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถติดตามมาตลอดทาง จึงตัดสินจอดรถทิ้งไว้ที่บริเวณดังกล่าวก่อน เพราะไม่แน่ใจในความปลอดภัยจากปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ