นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีตัวแทนทูต และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ ไปติดตามการแจ้งข้อกล่าวหานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 เม.ย.) ว่า ถือเป็นการผิดหลักการทางการทูตของสหประชาชาติ ที่ไม่ควรมาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม การที่สถานทูตจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมของประเทศนั้นๆ คือ พลเมืองของสถานทูตประเทศนั้นเข้าไปเกี่ยวข้องในคดีด้วย หรือการจะเข้ามาสังเกตการณ์ ก็ต่อเมื่อเกิดเหตุยุ่งเหยิงขึ้นในประเทศ ซึ่งจะต้องสังเกตการณ์อยู่ห่าง ๆ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในประเทศ สถานทูตจะเข้าเข้าใจ ถ้ามีเรื่องที่สงสัย หรือไม่แน่ใจ สถานทูตควรสอบถามมายังกระทรวงการต่างประเทศ
นายดอน ยังระบุด้วยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาเชิญผู้แทนจากสถานทูตต่าง ๆ มาพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหลักการ และจรรยาบรรณ รวมถึงขอความร่วมมือ อย่าให้เกิดเรื่องลักษณะนี้ขึ้นอีก เพราะก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศก็เคยทำหนังสือเวียนแจ้งเตือนไปแล้ว
ส่วนในระหว่างการพิจารณาคดีในศาลทหาร ผู้แทนทูตจากประเทศต่าง ๆ จะเข้าไปสังเกตการณ์ได้หรือไม่ นายดอน ระบุว่า เป็นเรื่องที่ศาลจะเป็นผู้พิจารณา
ทั้งนี้ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า นายธนาธร เป็นคนเชิญตัวแทนทูตและตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศมาติดตามการแจ้งข้อกล่าวหาที่ สน.ปทุมวัน เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่า ช่วงเย็นของวันที่ 4 เม.ย. เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติติดต่อมายังพรรคอนาคตใหม่ทนายความของนายธนาธร และสน.ปทุมวันด้วยตัวเอง แสดงความต้องการจะขอเข้าร่วมสังเกตการณ์การแจ้งข้อกล่าวหา มาตรา 116 ต่อนายธนาธร
ส่วนทูตจากสหรัฐอเมริกา, แคนาดา และสหภาพยุโรป พรรคอนาคตใหม่มีสัมพันธ์อันดีอยู่แล้ว ต่อให้นายธนาธรเป็นผู้เชิญเอง ถ้าไม่ใช่ประเด็นน่าห่วงกังวลจริงๆ ตัวแทนนานาชาติเหล่านี้ก็จะไม่ร่วมติดตามสถานการณ์ เพราะมีธรรมเนียมทางการทูตในการทำงานอยู่ แต่ที่ 12 ตัวแทนนานาชาติมาร่วมสังเกตการณ์นั้น เพราะเห็นว่า การให้กฎหมายความมั่นคงตามมาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่นนั้นถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก และน่ากังวลมากขึ้นไปอีกเมื่อถูกใช้กับ หัวหน้าพรรคการเมือง ที่เพิ่งลงเลือกตั้งครั้งแรก แต่ได้รับส.ส.ถึง 80 กว่าที่นั่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง