ไม่พบผลการค้นหา
ศาลปกครองสูงสุด ยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ แอชตัน อโศก

คดีสืบเนื่องจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ ที่ อส. 67/2564 หมายเลขแดงที่ อส. 188/2566 ระหว่าง สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวกรวม 16 คน ผู้ฟ้องคดี กับ ผู้อำนวยการเขตวัฒนา กับพวกรวม 5 คน ผู้ถูกฟ้องคดี บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด หรือ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ทู จำกัด ผู้ร้องสอด


โดยพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ที่พิพากษาเพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายอาคาร หรือเปลี่ยนการใช้อาคาร โดยไม่ยื่นคำขอรับใบอนุญาต ตามมาตรา 39 ทวิ ตามแบบ กทม.6 เลขที่ 18/2558 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558

ใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายอาคาร หรือเปลี่ยนการใช้อาคาร โดยไม่ยื่นคำขอรับใบอนุญาต ตามมาตรา 39 ทวิ ตามแบบ กทม.6 เลขที่ 69/2558 ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2558

ใบรับแจ้งการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือรื้อถอนอาคาร ตามมาตรา 39 ตรี ตามแบบ ยผ.4 เลขที่ 48/2559 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2559 ฉบับแก้ไข

และใบรับแจ้งการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือรื้อถอนอาคาร ตามมาตรา 39 ตรี ตามแบบ ยผ.4 เลขที่ 129/2560 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 ที่ออกให้แก่ผู้ร้องสอด โดยให้มีผลย้อนหลังถึงวันที่ออกหนังสือฉบับดังกล่าว ส่วนคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

ต่อมา ผู้ร้องในฐานะนิติบุคคลอาคารชุดแอชตัน อโศก ยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่อ้าง การที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดให้เพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้างอาคารฯ ตามมาตรา 39 ทวิ และใบรับแจ้งการก่อสร้างอาคารตามมาตรา 39 ตรี ที่ออกให้แก่ผู้ร้องสอดทุกฉบับ

โดยมีผลย้อนหลังจนถึงวันที่ออกหนังสือดังกล่าว ย่อมมีผลกระทบต่อการจดทะเบียนอาคารชุดแอชตัน อโศก หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด และการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับห้องชุด ทำให้ผู้ร้องและเจ้าของร่วมไม่สามารถเข้าไปดูแลรักษาทรัพย์สินส่วนกลางและทรัพย์สินส่วนบุคคลได้

และในกรณีที่ผู้ร้องสอดไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้โครงการอาคารชุดแอชตัน อโศก มีทางเข้า - ออก ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) โดยผู้อำนวยการสำนักการโยธา (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) จะต้องมีคำสั่งให้ผู้ร้องและเจ้าของร่วมระงับการใช้อาคารชุด แอชตัน อโศก

เนื่องจาก การก่อสร้างและเปิดใช้อาคารดังกล่าวไม่เป็นไปตามกฎหมายควบคุมอาคาร ผู้ร้องจึงเป็นบุคคลภายนอก ผู้มีส่วนได้เสียหรืออาจถูกกระทบจากผลคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในคดีนี้

นอกจากนี้ ผู้ร้องและเจ้าของร่วมเชื่อโดยสุจริตว่า การก่อสร้างอาคารดังกล่าวเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย และการอนุญาตให้ผู้ร้องสอดใช้ที่ดินตามโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๓๑๘๙ เลขที่ดิน ๒๑๖๑ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นทางผ่านเข้า - ออกโครงการ แอชตัน อโศก สู่ถนนอโศกมนตรีไม่ได้เป็นเหตุทำให้การใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์แห่งการเวนคืนต้องเสียไปและไม่ได้กระทบต่อการให้บริการรถไฟฟ้าและพื้นที่จอดรถบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสุขุมวิท

และการเพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้างอาคารตามมาตรา 39 ทวิ และใบรับแจ้งการก่อสร้างอาคารตามมาตรา ๓39ตรี ที่ออกให้แก่ผู้ร้องสอด หรือรื้อถอนอาคารชุดจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้ร้องและเจ้าของร่วมในอาคารชุด แอชตัน อโศก อย่างร้ายแรงจนยากแก่การเยียวยา และความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากผลแห่งคำพิพากษาดังกล่าวจะขยายวงกว้างออกไปมากกว่าเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ผู้ฟ้องคดีจะได้รับ

กรณีจึงมีเหตุที่ผู้ร้องจะขอให้พิจารณาคดีใหม่ ตามมาตรา 35 วรรคหนึ่ง (2) และ (3) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2552

ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของผู้ร้องไว้พิจารณา เนื่องจากผู้ร้องไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียหรืออาจถูกกระทบจากผลแห่งคดีที่จะมีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ได้ตามมาตรา 75 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อศาลปกครองสูงสุด

ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งที่ 351/2567 วินิจฉัยว่า การที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาเพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้างฯ และใบรับแจ้งการก่อสร้างฯ ที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ออกให้แก่ผู้ร้องสอด ย่อมมีผลในทางกฎหมายเพียงว่า ผู้ร้องสอดก่อสร้างและดัดแปลงอาคารชุด โครงการ แอชตัน อโศก โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นต้องไปพิจารณาดำเนินการตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ต่อไป

แต่ไม่ได้มีผลเป็นการเพิกถอนการจดทะเบียนอาคารชุด หนังสือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด และการจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุดของโครงการแอชตัน อโศก แต่อย่างใด

และหากข้อเท็จจริงปรากฏต่อมาในภายหลังว่า เจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ใช้อำนาจดำเนินการตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 กับอาคารโครงการแอชตัน อโศก ก็ไม่เป็นการตัดสิทธิที่ผู้ร้องและเจ้าของร่วมจะใช้สิทธิทางศาลต่อไป

กรณีจึงไม่อาจถือได้ว่า คำพิพากษาของศาลปกครองในคดีนี้มีผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของผู้ร้องและเจ้าของร่วมอาคารชุด โครงการแอชตัน อโศก ดังนั้น ผู้ร้องจึงไม่ใช่บุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียหรืออาจถูกกระทบจากผลแห่งคดีนี้ในอันที่จะมีสิทธิยื่นคำขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดีหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีปกครองนั้นใหม่ได้ ตามมาตรา 75 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542

และเมื่อวินิจฉัยแล้วว่าผู้ร้องไม่ใช่บุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียหรืออาจถูกกระทบจากผลแห่งคดีนี้แล้ว จึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่า มีเหตุที่ศาลปกครองจะพิจารณาคดีนี้ใหม่ได้ตามมาตรา 75 วรรคหนึ่ง (1) ถึง (4) ตามอุทธรณ์ของผู้ร้องหรือไม่ เพราะไม่ทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไป คำร้องอุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น

ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำขอของผู้ร้องไว้พิจารณาด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของบมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) ล่าสุด ปรับตัวลง 1.18% หรือลดลง 0.01 บาท มาที่ 0.84 บาท