นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ หัวหน้าพรรคพลเมืองไทย พร้อมด้วยนายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ และนพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เดินทางเข้าหารือกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุม ครม. เพื่อยืนยันว่า กลุ่มพรรคการเมืองขนาดเล็ก ไม่ได้มีมติเสนอให้นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์​ เป็นโควต้ารัฐมนตรีในส่วนพรรคเล็ก 

นายสัมพันธ์ เปิดเผยว่า หากพรรคการเมืองขนาดเล็กต้องการเรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรี คงจะมีการเรียบร้อย ตั้งแต่มีการตั้งคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ในครั้งแรกแล้ว แต่ทุกพรรคก็ทราบดีว่า เราเป็น 1 พรรค จะไปเรียกร้องได้อย่างไร ถึงแม้ทุกคนจะมีความสามารถเป็นรัฐมนตรีได้ แต่ด้วยสถานการณ์ และความเป็นจริง เสียงเดียวหลายๆ พรรครวมกัน ก็ทำงานลำบาก ต้องนำนโยบายจากหลายพรรคมารวมกัน 

ส่วนกรณีที่เพื่อนสมาชิกในกลุ่มพรรคเล็ก มีการเรียกร้องตำแหน่งและเสนอตัวเองเป็นรัฐมนตรี ก็คงเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล คงไปว่ากันไม่ได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้บอกว่า ไม่เป็นไร หากพรรคเล็กจะเสนอชื่อมาก็ทำได้ ซึ่งก็จะมีการคัดกรองว่าใครเหมาะสม หากสามารถเป็นได้ดี ก็จะตั้งให้ แต่หากเห็นว่าต้องรอก่อน ก็ต้องรอไป ดังนั้นการมาพบวันนี้เพื่อแจ้งนายกรัฐมนตรีว่า กลุ่มพรรคเล็กไม้ต้องการเรียกร้องตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี จะพิจารณาอย่างไรก็แล้วแต่ท่าน เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเกิดความสบายใจ และไม่ต้องเกิดความกังวล 

ทั้งนี้ หากมีเก้าอี้รัฐมนตรีว่างจริงๆ กลุ่มพรรคเล็กก็ไม่ขัดข้อง แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ว่าจะให้เป็นใคร 

ส่วนกลุ่มพรรคเล็กได้มีการเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ให้กับนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วหรือไม่นั้น นายสัมพันธ์ เผยว่า ในขณะนี้ยังไม่เสนอใคร แต่เราจะเสนอก็ต่อเมื่อมีสัญญานออกมาจากนายกรัฐมนตรี ว่ามีที่นั่งให้กลุ่มพรรคเล็กของเรา จากนั้นก็จะมีการเรียกประชุมเพื่อหารือกันว่า จะเสนอใครเป็นรัฐมนตรี แต่หากยังไม่มีสัญญานการปรับคณะรัฐมนตรี คงไปเรียกร้องอะไรไม่ได้

"พลังท้องถิ่นไท"ย้ำเป็นสุภาพบุรุษพอ ยันไม่เคยเจรจาต่อรอง ขอตำแหน่งรัฐมนตรี

ศ.โกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวถึงกรณีที่ 7พรรคเล็กมีมติ 7 สนับสนุน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นรัฐมนตรีว่า ส่วนตัวคิดว่าทุกพรรคอยากเป็นรัฐบาล อยู่ที่เป็นแล้ว จะเป็นอย่างไร แต่ตนคิดว่าไม่ว่าจะเป็นพรรคเล็ก ก็ต้องสร้างอำนาจต่อรอง เมื่อพรรคอื่นเสนอได้ก็เสนอบ้างไม่ได้หรือ ก็สามารถเสนอได้แต่อยู่ที่หัวหน้ารัฐบาลจะมีวิธีการจัดสรรปันส่วนระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ตนคิดว่าข้อเสนอทุกวันนี้เป็นการสร้างกระแส และมโนกันทั้งนั้น ว่าคนนั้นจะได้เป็นรัฐมนตรี ส่วน 7 พรรคเล็กก็สนับสนุนนายมงคลกิตติ์ได้ แต่จะได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องนึ่ง

ศ.โกวิทย์ กล่าวว่า สำหรับพรรคพลังท้องถิ่นไทเราคงไม่สนับสนุนนายมงคลกิตติ์ เพราะเรามีตั้ง 5 เสียงก็สนับสนุนพรรคเราเอง และมีคนสนับสนุนพรรคเราคือ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย อีก 2 เสียงก็ เป็น 7 เสียงแล้ว แล้วเราจะไปสนับสนุนพรรคอื่นทำไม ซึ่งโฆษกพรรคก็พูดชัดเจนว่าเราจะไปหนุนพรรคอื่นทำไม แต่ตนคิดว่า เราคงไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเล็กเลย เพราะเราไม่มีส่วนกับพรรคเล็กเลย เรามีเสียงพอที่จะพิจารณาได้ ซึ่งการเมืองไม่ได้มีสูตรสำเร็จว่าต้องกี่คน

แต่อยู่ที่เขาจะจัดสรรให้เราหรือเปล่า การเมืองเป็นเรื่องที่แต่ละคนก็มีความหวังและมโนไป จะมีปัญหาตอนที่ผิดหวัง ดังนั้นตนคิดว่าพรรคพลังท้องถิ่นไทคิดถูกต้องแล้วที่หัวหน้าพรรคบอกว่าเราไม่เรียกร้องอะไร เราก็อยู่อย่างสุภาพบุรุษมาตั้งแต่ต้น ในทางการเมืองเราจะไปโฆษณา หรือประกาศก็ไม่ได้ ตนไม่เห็นด้วยกับการสร้างกระแส และพยายามให้ข่าวสื่อ เพราะเป็นการสร้างกระแสแบบมโนมากกว่า ปล่อยให้สื่อหาข่าวเองว่าน่าจะดีกว่า เพราะนักการเมืองปั่นกระแสให้เป็นข่าว การเมืองแบบนี้ไม่ใช่ข้อยุติจริงหรือไม่จริง

"พรรคพลังท้องถิ่นไทยก็เป็นพันธมิตรทางการเมืองกับพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ส่วนจะเป็นพันธมิตรแท้หรือไม่ต้องใช้เวลาเป็นบทพิสูจน์ ส่วนจะเสนอใครเป็นรัฐมนตรียังไม่รู้ ส่วนมากผมไม่ค่อยให้ความเห็นเรื่องแบบนี้ ถ้าไม่ได้จะเป็นการเสียหน้ามากกว่า ในทางกา รเมืองเขารู้กันว่าใครเป็นใคร ยกตัวอย่างพรรคชาติพัฒนา ของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคไม่เคยมีข่าว ไม่เคยพูดอะไร พอประกาศก็ได้ตำแหน่ง แต่พรรคที่บอกว่ายื่นเสนออย่างนั้น อย่างนี้ก็อาจจะไม่ได้ก็ได้ ผมคิดว่าการสร้างข่าวไม่ได้ ถ้าไม่สร้างข่าวได้ ในความเห็นผมนะ ในทางการเมือง สร้างข่าวให้เป็นข่าวจะไม่ได้ อยู่เฉยๆจะได้ในทางการเมืองจะเป็นอย่างนั้น"ศ.โกวิทย์ กล่าว