พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. กล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ว่า กรรมการบริหารพรรค ทษช. ทั้ง 13 คนจะถูกตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรคหรือผู้ร่วมก่อตั้งพรรคการเมืองอื่นภายในเวลา 10 ปี ยกเว้นนายรุ่งเรือง พิทยศิริ ซึ่งลาออกไปก่อนมีการกระทำความผิด ทั้งนี้กรรมการบริหารพรรคทั้ง 13 คน ที่ถูกเพิกถอนสิทธิสามารถไปช่วยหาเสียงให้กับพรรคการเมืองอื่นได้ แต่ต้องระวังไม่ให้เข้าข่ายครอบงำพรรคอื่น และจะขึ้นรูปในป้ายหาเสียงคู่กับผู้สมัครของพรรคอื่นไม่ได้
ส่วนสมาชิกและผู้สมัครคนอื่นๆ เมื่อพรรคถูกยุบสามารถไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่น และเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ เพราะยังมีสถานะเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทั้งนี้ประเด็นผู้ช่วยหาเสียงจะถูกควบคุมด้วยจำนวนและค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนที่ทำการพรรค และสาขาพรรคแม้กฎหมายไม่ได้กำหนดว่าต้องรื้อถอนป้ายชื่อและโลโก้พรรคออกภายในกำหนดเวลาเท่าไร ก็แต่ควรรีบดำเนินการโดยเร็ว
สำหรับการโฆษณาหาเสียงในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นป้ายหาเสียง หรือการหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียต้องลบทิ้งทั้งหมด ในระหว่างนี้ กกต.ได้เร่งประชาสัมพันธ์ไปยังสถานเอกอัครราชทูตใน 97 ประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ให้เร่งชี้แจงกรณีพรรค ทษช.ถูกยุบ เพราะหากกาบัตรเลือกผู้สมัครของพรรคที่ถูกยุบ ซึ่งผู้สมัครถูกถอนชื่อจะถือเป็นบัตรเสียทันที
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ระบุว่า ขั้นตอนการยุบพรรค เมื่อ กกต. ได้รับคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ก็จะเร่งส่งเรื่องให้ศาลฎีกาสั่งถอนชื่อผู้สมัครของพรรคทษช.ออกจากการเป็นผู้สมัครทันที โดยเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า โดยตามขั้นตอนนายทะเบียนพรรคการเมืองประกาศยุบพรรคทษช. และนำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร้อมกับแจ้งประกาศดังกล่าวให้กับอดีตหัวหน้าพรรค ทษช.ทราบ และแจ้งให้พรรคจัดส่งบัญชี และงบแสดงสถานะทางการเงินต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองภายใน 30 วัน นับแต่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งยุบพรรคเพื่อแจ้งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินดำเนินการชำระบัญชีของพรรค
ส่วนกรณีข้อวิจารณ์ กกต. ยุบ ทษช. รวดเร็ว แต่เรื่องร้องยุบพรรคอื่นช้าโดยเฉพาะกรณีโต๊ะจีนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ระบุว่าพรรค ทษช. ความผิดปรากฎชัดมีหลักฐานอันควรเชื่อว่ามีการกระทำอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองอย่างชัดเจน จึงเสนอให้ กกต. พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ทันที
ส่วนกรณีโต๊ะจีนระดมทุนต้องตรวจสอบบัญชียอดบริจาค จะยุบพรรคได้ต่อเมื่อมีการรับเงินจากชาวต่างชาติ หรือนิติบุคคลที่มีชาวต่างชาติถือครองหุ้นมากกว่า 49 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีรายชื่อนิติบุคคลบริจาคถึง 40 แห่ง และเป็นการบริจาคจากบุคคลธรรมดาถึง 84 คน รายละเอียดทั้งต้องตรวจสอบไปยังสำนักทะเบียนราษฎร และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน และสามารถเสนอความเห็นให้ กกต.พิจารณาได้ รวมถึงคำร้องยุบพรรคอื่นๆด้วย
ย้ำกฎหมายบังคับให้ กกต.บินดูงานเลือกตั้งต่างประเทศ
นอกจากนี้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังระบุถึงการเดินทางไปดูงานการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรของ กกต.ทั้ง 7 คน ว่า ตามกฎหมายใหม่กำหนดให้ กกต.ต้องไปดูการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร หากเกิดเหตุผิดพลาด เช่น ส่งบัตรผิด กกต.สามารถใช้อำนาจสั่งระงับการเลือกตั้งได้ทันที ถ้า กกต.ไม่เดินทางไปแล้วเกิดเหตุขัดข้องผิดพลาด จะกลายเป็น กกต.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่วนงบประมาณในการเดินทางก็อยู่ในขอบข่ายของการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ในการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 17 มี.ค.นี้ กกต.ทั้ง 7 คนก็จะลงพื้นที่ตรวจสอบการจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ต่างๆ เช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง