ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน มีกำหนดการจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 โดยจะยื่นญัตติต่อ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในเวลา 13.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. 2565 โดยรายชื่อ 10 รัฐมนตรีที่จะถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย,

ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง

รวมทั้งยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลที่เปรียบเหมือนเป็นนั่งร้านให้ ประกอบด้วย

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม จากพรรคภูมิใจไทย,

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์

จุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย

ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 กำหนดให้เมื่อมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วจะยุบสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ เว้นแต่จะมีการถอนญัตติออกหรือมีการลงมติไม่ไว้วางใจจนมีคะแนนเสียงไม่มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งปัจจุบัน มี ส.ส.เท่าที่มีอยู่ 477 คน ดังนั้น มติไม่ไว้วางใจต้องมีคะแนนเสียงของ ส.ส.มากกว่า 239 เสียง จึงจะทำให้รัฐมนตรีที่ถูกยื่นญัตติพ้นจากตำแหน่งได้

ทั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านจะใช้ยุทธการที่กำหนดไว้ในการอภิปรายครั้งนี้คือ 'เด็ดหัว สอยนั่งร้าน' โดยจะเป็นการอภิปรายรายบุคคล พุ่งเป้าไปที่หัว คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จนถึงนั่งร้าน คือคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ซึ่งการอภิปรายจะอยู่ภายใต้กรอบข้อกล่าวหาหลัก 6 ข้อ ได้แก่

1) ความผิดพลาดบกพร่องล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน

2) จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และกระทำผิดต่อกฎหมาย ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม

3) ทุจริต ส่อทุจริต เอื้อประโยชน์

4) ไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา 

5) ละเมิดสิทธิมนุษยชน

และ 6) ทำลายระบอบประชาธิปไตย และระบบรัฐสภา