ไม่พบผลการค้นหา
ตร.เตรียมชี้แจงสารเคมีน้ำฉีดสี ยัน ม.112 ต้องพิจารณาระดับกองบัญชาการ หากผิดก็ต้องแจ้ง เผยชายเสื้อฝนชมพูมีเยอะ ใครบริสุทธิ์ขอมาเป็นพยานได้

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.พร้อม พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก ตร.แถลงแนวทางการดูแลและการจัดจราจรกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมที่นัดรวมตัวทำกิจกรรมนิทรรศการงานเฟสติวัลรวมพลังประชาธิปไตย บริเวณถนนอักษะ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ตั้งแต่เวลา 15.00น.เป็นต้นไป

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า วันนี้มีแจ้งการชุมนุม 2 กลุ่ม คือ 1.ภาคีนักศึกษาศาลายา แจ้งการชุมนุมกับ สน.ธรรมศาลา เพื่อจัดการชุมนุมที่ถนนอักษะถึงถนนอุทยานซอย 13 เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00น.เป็นต้นไป โดยตำรวจกำหนดเงื่อนไขการชุมนุมดังนี้คือ 1.ให้ควบคุมผู้ชุมนุมให้อยู่ในพื้นที่แจ้งชุมนุมเท่านั้น 2.ห้ามเคลื่อนย้ายพื้นที่ชุมนุมเด็ดขาด 3.ห้ามใช้ป้ายข้อความดูหมิ่นปลุกระดมยุยง 4.ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมไปจุดอื่นที่ไม่ได้แจ้งไว้ 5.ห้ามใช้เครื่องเสียงตามที่กฎหมายกำหนดค่าสูงสุด 115 เดซิเบล และค่าเฉลี่ยตลอดการชุมนุมไม่เกิน 70 เดซิเบล และ 6.ให้ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ไม่กระทบต่อความเรียบร้อยของบ้านเมืองและศีลธรรมอันดีของประชาชน ทั้งนี้ การชุมนุมที่ถนนอักษะ ห้ามชุมนุมเกินระยะ 150 เมตรจากเขตพระราชฐานเด็ดขาด 

กลุ่มต่อมา คือ กลุ่มเลือกข้าง ประชาธิปไตยแจ้งการชุมนุมกับ สน.พระราชวัง ตั้งแต่เวลา 12.00-19.00น.โดยพบปะพูดคุยการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปาหท้องชาวย้าย ที่หน้าร้านแม็คโดนัลด์ ก่อนเดินไปแยกคอกวัว โดยกำหนดเงื่อนไขดังนี้คือ ให้อยู่บนทางเท้าร้านแม็คและเดินไปแยกคอกวัวบนทางเท้าโดยไม่ให้ลงผิวจราจรเด็ดขาด นอกนั้นเงื่อนไขเดียวกับกลุ่มแรก

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า การชุมนุมที่ถนนอักษะ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวตั้งแต่เวลา14.00น. เส้นทางที่จะได้รับผลกระทบคือ แยกถนนอักษะตัดถนนพุทธมณฑลสาย 4 แยกถนนอักษะตัดถนนเลียบคลองทวีวัฒนา และถนนเลียบคลองทวีฯ ไปจนถึงแยกบรมราชชนนี จึงขอให้ใช้ถนน พุทธมณฑลสาย 3,4,5 และถนนบรมราชชนี ส่วนแยกตัดถนนอักษะกับเพชรเกษมยังคงใช้ได้ตามปกติ

อีกจุดที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คาดการณ์ว่า การเดินเท้าไปแยกคอกวัวอาจเกิดผลกระทบด้านจราจร ฉะนั้นขอให้เลี่ยงไปใช้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า หรือไปตามถนนเจ้าฟ้าทางขวา และถนนอัษฎางค์ทางซ้าย

ต่อมาในช่วงตอบคำถาม พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรที่แยกวังแดง สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ได้ประชุมเตรียมการเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ ทั้งนี้ตำรวจยังไม่ขอศาลเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวต่อแกนนำผู้ชุมนุมบางส่วน

ส่วนการแจ้งข้อหาผิด ม.112 ยังต้องดูตามพฤติการณ์และบริบทของผู้ชุมนุมหากเข้าข่ายก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหาตามนั้น ยืนยันว่าตำรวจต้องให้ความเป็นธรรม และการแจ้งข้อกล่าวหานี้จะต้องพิจารณาระดับกองบัญชาการเท่านั้น ส่วนการเตรียมออกหมายเรียกผู้ชุมนุมที่รัฐสภา แยกเกียกกาย และหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น สน.บางโพ สน.เตาปูน และ สน.ปทุมวัน กำลังพิสูจน์ทราบตัวบุคคล จะมีคนผิดมากกว่า 30 รายหรือไม่ ตัวเลขไม่สำคัญ สำคัญที่คนกระทำผิด เชื่อว่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เบื้องต้นความผิดแบ่งเป็นหลายส่วน สำหรับผู้ชุมนุม เข้าข่ายผิดฐานจัดการชุมนุมโดยมิชอบ บางส่วนสมคบกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความไม่สงบเรียบร้อย ส่วนที่ปราศรัยที่พาดพิงผิดฐานหมิ่นประมาท อีกส่วนที่ทำลายสิ่งของและกล้องวงจรปิด ฐานทำให้เกิดความเสียหายซึ่งทรัพย์สินเอกชน ทรัพย์สินราชการ และทรัพย์สินสาธารณะ

เมื่อถามความคืบหน้าการที่มีชายเสื้อฝนชมพูรายหนึ่งออกมาแสดงตัวว่าไม่ใช่คนที่ทำท่าเล็งปืนตามในข่าว พล.ต.ต.ปิยะ ตอบว่า หากมั่นในว่าตัวเองไม่ใช่คนผิด ก็ให้ไปพบตำรวจเตาปูนเพื่อเป็นพยานในคดี เพราะในม็อบมีคนชุดชมพูเยอะ จึงต้องพิสูจน์ทราบว่าเป็นคนเดียวกันจริงหรือไม่ เรื่องการตามตัวตอนนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว อีกทั้ง พฐ.ยังตรวจพบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุหลายชนิด จุดแรกตรงรถบัส ตชดใกล้แยกเกียกกาย อีกจุดที่พบมาก อยู่เลยทางเข้าวัดใหม่ทองเสน ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่เกิน 400 เมตร

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า แม้แจ้งการชุมนุมแล้วแต่หากมีการกระทำใดเข้าข่ายความผิดอื่นๆ ตำรวจยังคงต้องพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายเช่นทุกครั้ง จึงขอให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีมีแกนนำผู้ชุมนุมแจ้งว่าถูกเจ้าหน้าที่ติดเครื่องจีพีเอสไว้ใต้ท้องรถนั้นยังไม่ได้รับรายงาน เพราะรถส่วนใหญ่ก็ติดอยู่แล้ว ตำรวจไม่จำเป็นต้องตามขนาดนั้น เรามีวิธีการอยู่แล้ว สำหรับสารเคมีในการฉีดน้ำนั้น สัปดาห์หน้าจะมีการชี้แจงจากผู้จัดซื้อจัดหาและผู้เชี่ยวชาญ ยืนยันว่าขั้นตอนทั้งหมดมีวัตถุประสงค์เพื่อระงับยับยั้งไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าเขตแนวที่ห้ามไว้ แต่ยอมรับว่าสารเคมีนั้นมีผลกระทบแน่นอน แต่จะเป็นผลข้างเคียงอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับบุคคล สำหรับอาการบาดเจ็บก็ต้องไปดูในส่วนที่เกี่ยวข้องว่าจะรับผิดชอบอย่างไร หากผู้ชุมนุมจะฟ้องร้องเราก็ไม่ตัดสิทธิ์ เพราะที่ผ่านมายังมีการฟ้องร้องในส่วนอื่นๆ ด้วย อีกทั้งก่อนการใช้ก็ฝึกซ้อมจนชำนาญ ตำรวจทำตามขั้นตอนแน่นอน