ที่กระทรวงแรงงาน กลุ่ม 'ขอคืนไม่ได้ขอทาน' นำโดย นสพ.บูรณ์ อารยพล เดินทางมาจัดกิจกรรม 'เดินหน้าถึงกระทรวงแรงงาน ช่วยผู้ประกันตนพ้นวิกฤติโควิด-19' ในธีมงานชุดไทยโจงกระเบน เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้ประกันตน 17 ล้านคน พร้อมร่วมแสดงความยินดีกับ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน และยื่นข้อมูลเป็นเอกสารและจดหมายที่ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ดำเนินการช่วยเหลือตามข้อเรียกร้องลงมายังหน่วยงานต่างๆ มีสาระสำคัญคือ
ทางกลุ่มขอให้มีนโยบายให้ผู้ประกันตน ในระบบประกันสังคมสามารถนำเงินสมทบชราภาพมาใช้ล่วงหน้าก่อนประมาณ 30-50% หรือหาแหล่งเงินกู้ให้กับผู้ประกันตนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
นสพ.บูรณ์ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่เจ้ากระทรวงแรงงานลงมาพบกับทางกลุ่มและเห็นว่าวิสัยทัศน์ของสุชาติ สอดคล้องกับทางกลุ่ม คือ ให้ทางประกันสังคมนำเงินของผู้ประกันตน 50% มาค้ำประกัน ให้ผู้ประกันตนสามารถกู้เงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินในอัตราดอกเบี้ย +1 จากดอกเบี้ยเงินฝากได้ ซึ่งไม่ใช่การนำเงินที่จะเป็นบำนาญชราภาพของผู้ประกันตนมาใช้ก่อน แต่เป็นการเปิดโอกาสผู้ประกันตน เข้าถึงสถาบันการเงินได้ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตโควิด-19 และหลังโควิด-19
ส่วนคดีความจากการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ โดนแจ้งข้อหา 'ทำอนาจาร' จากการถอดเสื้อในการทำกิจกรรมอย่างน้อย 4 ครั้ง ในฐานความผิดเดียวกัน ซึ่งตนจะพยายามเข้าพบผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อสอบถามว่ามีคำสั่งเจาะจงให้ดำเนินการกับตน ตามที่ตำรวจชั้นผู้น้อยหรือตำรวจที่แจ้งข้อกล่าวหา บอกกับตนไว้หรือไม่
ขณะที่ สุชาติ พร้อม นฤมล และผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ได้แถลงข่าวการเข้ารับตำแหน่งก่อนหน้านี้ โดยสุชาติยืนยันว่า ไม่มีปัญหาในการทำงาน และเป็นเรื่องดีที่นฤมล ซึ่งสนิทสนมกันดีมาช่วยงาน เพราะตนถนัดเพียงบ้างด้าน ต้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการดำเนินการแทนในบางอย่าง รวมถึงการประชุมต่างประเทศที่ตนไม่ค่อยถนัด ส่วนเรื่องเงินประกันสังคมก็ขอให้ผู้เกี่ยวข้องชดเชยตามสิทธิให้ทันท่วงที พร้อมยืนยันว่ารัฐมนตรีจะลงไปยุ่งกับประกันสังคมไม่ได้ เพราะผิดกฎหมาย
นฤมล ระบุว่า แม้เจอวิกฤตโควิด-19 ที่ผู้ใช้แรงงานได้รับผลกระทบจำนวนมาก แต่ก็ถือเป็นโอกาสที่จะได้พัฒนา เพิ่มทักษะฝีมือแรงงานไทย รองรับเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งนายกรัฐมนตรีอยากให้ยกระดับกระทรวงด้านเศรษฐกิจ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 รวมถึงฝากความหวังไว้กับกระทรวงแรงงานด้วย จึงได้ส่งตนลงมาช่วยงานกระทรวงนี้ ทั้งที่ไม่เคยมีตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยมามากกว่า 10 ปี และตนพร้อมทำงานทุกส่วนที่สามารถทำได้ ซึ่งต้องรอหารือว่าจะได้รับมอบหมายงานใดบ้าง