ไม่พบผลการค้นหา
'พรหมินทร์' ชี้ต้นตอค่าไฟแพง ไม่ได้มาจากรัฐบาล 'ยิ่งลักษณ์' แต่หลัง รปห. เศรษฐกิจโตน้อยกว่าเป้า แต่ยังเซ็นสัญญาต่อ ย้ำ 'เพื่อไทย' ไม่กลัววาทกรรมโจมตี เชื่อประชาชนฉลาดเข้าใจดี

วันที่ 20 เม.ย. ที่พรรคเพื่อไทย นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบาย และประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ ​​กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ร่วมกันแถลงข่าวในหัวข้อ 'ต้นเหตุค่าไฟแพงที่แท้จริง เป็นเพราะใคร'

นพ.พรหมินทร์ ระบุว่า ตนรู้สึกไม่ต่างจากประชาชนในช่วงนี้ ที่ในสถานการณ์ที่อาคารร้อน แต่ได้บิลค่าไฟหนาวๆ เพราะราคาสูงขึ้นจนน่าตกใจ พรรคเพื่อไทยตระหนักเรื่องนี้เป็นอย่างดีและอยู่เป็นนโยบายหลัก คือการลดราคาพลังงานทันทีเมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และเสนอมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

"พรรคเพื่อไทยตระหนักถึงเรื่องราคาพลังงานตั้งแต่ต้นๆ และมีแผนการที่ชัดเจน พร้อมยืนยันแนวทางคิดใหญ่ ทำเป็น และทำได้จริง" นพ.พรหมินทร์ กล่าว

ด้าน ศึกษิษฏ์ ชี้แจงข้อกล่าวหาว่าราคาพลังงานแพงเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยระบุว่า ในเวลานั้น เศรษฐกิจปี 2555 ขยายตัวได้ถึง 7.2% และ ยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้อีกปีละ 5% จึงต้องมีแผนงานในการผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอรองรับกับการเจริญเติบโตของประเทศ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ รัฐประหารและเข้ามาเป็นรัฐบาล ได้ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายได้เพียง 1% กว่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา การใช้ไฟฟ้าจึงน้อยกว่าปริมาณที่ผลิต

นอกจากนี้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังใช้อำนาจคำสั่ง คสช. ปลด คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ใหม่ทั้งชุด แล้วไม่มีการเปิดประมูลผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) อีกเลยนับแต่นั้นมา ทั้งที่ความต้องการใช้พลังงานในประเทศลดลง แต่รัฐบาลนี้ไม่เคยพยายามเจรจากับโรงไฟฟ้าให้ปรับลดกำลังผลิตแต่อย่างใด

นพ.พรหมินทร์ ยังกล่าวถึงข้อกล่าวหาว่าราคาพลังงานที่สูงขึ้น สืบเนื่องมาจากสมัยของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะที่ข้อเท็จจริงคือ ได้มีการจัดทำแผนพัฒนาพลังงาน (PDP) ไว้ล่วงหน้า แต่หลังรัฐประหาร 2557 เป็นต้นมา มีความเปลี่ยนแปลงจนเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามเป้า แต่ยังไปเซ็นสัญญาต่อโดยไม่พิจารณารายละเอียด ถือเป็นเรื่องแปลก และพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เตือนหลายครั้งแล้วในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา แต่ยังคงทำทองไม่รู้ร้อน แล้วเพิ่งมาคิดออกตอนนี้

"พรรคเพื่อไทยมีความเป็นสุภาพบุรุษ เมื่อมีข้อกล่าวหามา เราก็ยอมรับ และเอาข้อเท็จจริงมาโต้กลับ ไม่ได้สร้างวาทกรรมกันง่ายๆ ในหลักการใหญ่ เราเชื่อว่าประชาชนมีความเฉลียวฉลาด และเข้าใจในเรื่องนี้ดี" นพ.พรหมินทร์ กล่าว

นพ.พรหมินทร์ ยังให้ความเห็นถึงค่า Ft ที่เพิ่มขึ้น โดยมองว่าเป็นผลของรัฐบาลที่บริหารแบบปล่อยไหลๆ ไม่มีคำว่าประสิทธิภาพในหัวใจ ก่อนระบุว่า ควรช่วยดูแลตัวเองก่อนที่จะไปคิดวาทกรรมสวยๆ ตนแต่ละพรรครัฐบาลหาเสียงด้วยนโยบายที่อัจฉริยะ แม้ตนยังไม่เห็นทางเลยว่าจะทำได้อย่างไร