ไม่พบผลการค้นหา
นุ๊ก สุทธิดา นักร้องดังยุค 90 เปิดใจครั้งแรกหลังรู้ตัวป่วยเป็นมะเร็งไทรอยด์ ด้านลูกชายเผยรู้สึกเสียใจเมื่อรู้ว่าแม่ป่วย

วันที่ 29 ก.ค. นุ๊ก-สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา นักร้องดังยุค 90 ควง ปิ๊ปโป้ และ ปาแปง ลูกชาย เปิดใจผ่านรายการคุยแซ่บ โชว์ หลังล้มป่วยเป็นมะเร็งไทรอยด์ ที่ลุกลามต่อมน้ำเหลืองและตัดออก 17 จุด

“เข้มแข็งและแข็งแรงแล้ว”

คือคำกล่าวที่นุ๊กเผยถึงสภาพจิตใจของเธอในตอนนี้ พร้อมบอกว่ามะเร็งไทรอยด์เป็นอีกภัยเงียบที่น่ากลัว หลังจากทราบว่าป่วยคิดถึง อดัม ลูกคนเล็กว่าจะเติบโตยังไงเมื่อไม่มีแม่ตั้งแต่ 3 ขวบ และมีคำถามตามมาอีกร้อยแปด

“อดัมเป็นเด็กลูกครึ่ง แล้วเขาจะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่หรือเปล่า จะต้องกลับมาเลเซียหรือเปล่า คำว่าลูกไม่ได้อยู่ด้วยกันสำหรับนุ๊กคือเรื่องใหญ่มาก แล้วอีก 2 หนุ่มจะเรียนจบยังไง” ส่วนความรู้สึกหรืออาการของการเป็นมะเร็งไทรอยด์ ตอนนี้ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ

ด้าน ปิ๊ปโป้ เล่าถึงนาทีที่ทราบว่าแม่เป็นมะเร็ง “ผมรู้สึกเสียใจ แล้วรักแม่มากครับ” กับคำถาม "ปาแปง เข้าใจไหมว่าคำว่ามะเร็งคืออะไร" ปาแปงตอบว่า “เข้าใจครับ ในใจผมคิดว่าไม่ได้ร้ายแรงเท่าไหร่ หม่าม้าไม่ได้เป็นหนัก ผมก็เลยไม่ได้กังวล” ลูกชายนักร้องดังยุค 90 บอก

กับคำถามว่า “แม่เราเป็นมะเร็ง แล้วถ้าแม่ไม่อยู่กับเราจะเป็นยังไง คิดไกลขนาดนั้นไหม” ปาแปงตอบว่า “แค่สงสารอดัม ผมกังวลว่าถ้าแม่ตายไปใครจะดูอดัม” ช่วงนี้นุ๊กกล่าวเสริมว่า “เขาเคยพูดว่าแม่ตายผมอยู่ได้ไม่เป็นไรหรอก ผมโอเค ดูแลตัวเองได้ แต่ก็หายไปอยู่บ้านคุณยายแล้วไม่ลาด้วย”

นุ๊ก สุทธิดา.jpg

ช่วงท้ายรายการ นุ๊ก เล่าถึงขั้นตอนการรักษาช่วงที่รู้สึกว่าหนักที่สุด คือ การกลืนแร่ไอโอดีนผสมกับกัมมันตภาพรังสี เพื่อให้ไปฆ่าเซลมะเร็ง ทำให้มีอาการเวียนหัว ไม่สามารถให้ใครเข้าพบได้ เพราะมีกัมมันตภาพรังสีทำให้ต้องอยู่ในห้องคนเดียว ยิ่งทำให้รู้สึกแย่เพิ่มเติม

“ขั้นแรกคือการผ่า ผ่าปุ๊บคุณหมอปลุกเราขึ้นมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง ซึ่งต้องบอกว่าคุณหมอเก่งมาก นุ๊กเป็นก้อนใหญ่ เวลาตัดในไทรอยด์มันจะมีเส้นเลือดที่เอาไปเลี้ยงกล่องเสียงอยู่ 4 เส้น ข้างละ 2 โดยปกติอะไรไปกวนเส้นเลือด บางทีเส้นเลือดไม่ไปเลี้ยงกล่องเสียงก็จะเกิดอาการพูดไม่ได้ หรือพูดแล้วไม่มีเสียง บางคน 3 ปีพูดไม่ได้เลย เราก็ลุ้น แต่คุณหมอที่เราเลือกท่านนี้ เพราะว่าเก่งที่สุด ปลุกขึ้นมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง เจ็บค่ะ แต่ก็เจ็บแค่ครั้งแรกที่ออกมาจากห้องผ่า แต่พอพักก็หายเจ็บ

แต่ที่หนักก็คือการกลืนแร่ มันเป็นไอโอดีนผสมกับกัมมันตภาพรังสีเหมือนกับระเบิดที่ญี่ปุ่น คือกลืนเพื่อให้ไปฆ่าเซลมะเร็ง คล้ายๆคีโม เราจะรู้สึกวี้ด ทุกอย่างอักเสบ ระหว่างนั้นไทรอยด์เราก็โดนตัดไปแล้ว ไทรอยด์ก็เป็นตัวช่วยของความกระตือรือร้น ความสวยงาม มันหายไปหมด มันก็จะเพิ่มความพารานอยด์ให้เรา พวกซึมเศร้าต่างๆ มันอาจจะย้อนกลับมา มันตีกันไปหมด ร่างกายก็วี้ด ฮอร์โมนก็ขาด กลืนไปตอนแรก 5 ชม.แรก ยังแค่กระอักกระอ่วน มึนๆ งงๆ ปากแห้งๆ พอชม.ที่ 6 เท่านั้นแหละ จากที่เคยร่าเริง เรารู้สึกทำไมมันเวียนหัว

ตอนที่กลืนแร่ไม่สามารถให้ใครเข้าพบได้ เราอยู่คนเดียว เพราะว่าเรามีกัมมันตภาพรังสี เพราะฉะนั้นคนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง อยู่ในห้องคนเดียว แค่เราป่วยเราก็รู้สึกแย่แล้ว แล้วเรายังเป็นอย่างนี้อีก แล้วอีก 6 เดือนก็ต้องไปตรวจอีก ลูกเพิ่งรู้เรื่องรักษาวันนี้ หลังจากรักษาก็เพิ่งได้เจอกันค่ะ สองหนุ่มนี้คือความเบาใจของเราแล้ว แม้จะเป็นห่วง แต่ก็มั่นใจว่าเขาจะดูแลตัวเองได้ดี”

ภาพจาก เฟซบุ๊ก คุยแซ่บ โชว์