ภายหลังศาลอาญา อ่านคำพิพากษาคดี สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. กับพวกรวม 39 คน ฐานร่วมกันเป็นกบฏ และข้อหาอื่น ๆ กรณีชุมนุมขับไล่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ให้ออกจากตำแหน่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป บุกยึดสถานที่ราชการ ปิดพื้นที่หลายแห่งทั่วกรุงเทพมหานคร (Shutdown Bangkok)
โดยท้ายที่สุด เวลาประมาณ 17.20 น. ศาลมีคำสั่งพิพากษาจำคุกจำเลยสำคัญหลายราย
ล่าสุดมีท่าทีจากเหล่าแกนนำกลุ่ม กปปส. ออกมาเเสดงความคิดเห็น
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี และอดีตแนวร่วม กปปส. ระบุผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ว่า
"#ภารกิจเพื่อชาติ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมขอให้กำลังใจลุงกำนันสุเทพ และพี่น้องกปปส.ทุกท่านครับ
ผมถือว่าทุกท่านได้เสียสละ อย่างยิ่งใหญ่ต่อประเทศชาติและบ้านเมืองของเรา
#ให้กำลังใจครับ"
ขณะที่ สกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า "ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้สึกเสียใจที่สุดมากเท่าวันนี้ครับ"
ด้านเพจสุเทพ เทือกสุบรรณ เคลื่อนไหวหลังศาลมีคำสั่งจำคุก โดยระบุว่า "เรียนพี่น้องร่วมอุดมการณ์ทุกท่าน วันนี้พวกเราแกนนำ กปปส. ถูกพิพากษาลงโทษจำคุกคนละหลายปี อย่างไรก็ตามทุกคนยังยึดมั่นในอุดมการณ์ รับใช้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่เปลี่ยนแปลงครับ"
เมื่อเวลา 17.20 น. ศาลอ่านคำพิพากษาพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยนำสืบแล้ว มีผลพิพากษาจำคุกจำเลยสำคัญ คือ สุเทพ เทือกสุบรรณ จำเลยที่ 1 จำคุก 5 ปี, ชุมพล จุลใส จำเลยที่ 3 จำคุก 9 ปี 24 เดือน, พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จำเลยที่ 4 จำคุก 7 ปี, อิสสระ สมชัย จำเลยที่ 5 จำคุก 7 ปี 16 เดือน,
วิทยา แก้วภราดัย จำเลยที่ 6 จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท, ถาวร เสนเนียม จำเลยที่ 7 จำคุก 5 ปี, ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ จำเลยที่ 8 จำคุก 6 ปี 16 เดือน, เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ จำเลยที่ 9 จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท
สุวิทย์ ทองประเสริฐ จำเลยที่ 16 จำคุก 4 ปี 8 เดือน, สุริยะใส กตะศิลา จำคุก 2 ปี, ทยา ทีปสุวรรณ จำคุก 1 ปี 8 เดือน, อัญชะลี ไพรีรัก จำคุก 1 ปี รอลงอาญา ปรับ 13,333 บาท เป็นต้น
ทั้งนี้หลังจากมีคำพิพากษา ส่งผลให้ 3 จำเลย ซึ่งเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกอบด้วย พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดีอีเอส ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และ ถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ต้องหลุดจากความเป็นรัฐมนตรี
โดยรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 160 (7) การกำหนดคุณสมบัติรัฐมนตรี ต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุดก็ตาม และหากถูกคำพิพากษาไม่ว่าจะรอลงอาญาหรือไม่อย่างไร ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีโดยทันที แต่หากเป็น ส.ส. ถูกคำพิพากษาจำคุก ไม่ได้ประกัน ต้องถูกหมายขังเข้าเรือนจำ จึงจะพ้นจาก ส.ส. ตาม รธน.ม.98(6)