วันนี้ (20ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช) เตรียมใช้อำนาจตามมาตรา44ปลดล็อกพรรคการเมืองให้ดำเนินกิจกรรมทางธุรการได้ แต่ยังคงมีเงื่อนไขภายใต้ระเบียบพิเศษ ว่า อยากให้คสช.ระบุขอบเขตและกฎหมายที่ชัดเจนว่าพรรคการเมืองสามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งภายใต้กฎหมายที่ออกมาต้องสอดรับกับพรรคการเมืองที่ปฏิบัติตามได้ อย่างไรก็ตามการให้สามารถทำการตรวจสอบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคที่ทุกพรรคสามารถทำได้อยู่แล้วนั้นไม่ใช่ข้อสำคัญในการปลดล๊อกดังกล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวยืนยันว่าส่วนตัวไม่มีปัญหากับการปลดล็อคไม่ปลดล็อกหรือปลดล็อกเป็นขั้นๆ แต่อยากให้ คสช พิจารณาถึงปัญหาที่แท้จริงและต้องวางกติกาข้อกำหนดให้ชัดเจน หากพรรคมีหน้าที่ที่จะสามารถปฏิบัติได้ตามกฎหมาย
แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถปฏิบัติได้ คสช จะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างไร เพราะทั้งหมดคือกติกาที่ คสช ได้เขียนขึ้นมาเอง จึงอยากให้มีความชัดเจนในตัวคำสั่ง เพื่อให้ทุกพรรคสามารถปฏิบัติหรือดำเนินกิจกรรมตามกฎหมายได้
“สิ่งสำคัญที่ คสช จะต้องคำนึงถึงคือ การเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ด้วยความเสมอภาคเท่าเทียมกัน เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์การใช้อำนาจรัฐเพื่อสร้างความได้เปรียบหรือเสียเปรียบอย่างเช่นในอดีตที่ผ่านมา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนการปลดล็อกช้าจะกระทบต่อโรดแม็ปการเลือกตั้งหรือไม่นั้น เห็นว่ายังไม่มีเหตุผลอะไรที่จะกระทบต่อโรดแม็ปที่วางไว้ เพราะเป็นเพียงขั้นตอนแรกของการตรวจสอบสมาชิก และเชื่อว่าไม่ใช่เป็นการประวิงเวลาเพื่อรอจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ เพราะทุกพรรคก็ต้องทำงานตามเงื่อนไขและกรอบเวลาที่มี
เมื่อถามว่าการปลดล็อคดังกล่าวจะสอดคล้องกับกระแสข่าวการจัดตั้งพรรคประชารัฐหรือพรรคทหาร หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้กังวลใดๆ เพราะการเลือกตั้งแต่ละครั้งก็มีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่ขอให้เข้ามาตามระบบและแข่งขันกันบนความเสมอภาค