“นับถอยหลังเผด็จการ”
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 กรธ. จะต้องเสนอ พรป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พรป. ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ต่อ สนช. เพื่อพิจารณาทั้งที่กฎหมายทั้งสองฉบับถูกเรียงไว้เป็นลำดับ (1) และ (2) ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 แต่ด้วยเล่ห์ของเผด็จการกฎหมายที่ควรเสร็จก่อนกลับถูกทำให้เสร็จเป็นลำดับสุดท้ายทำให้การเลือกตั้งถูกยืดออกไป
ตามมาตรา 267 วรรคสี่ของรัฐธรรมนูญ สนช. จะต้องพิจารณา พรป. ทั้งสองฉบับให้เสร็จภายใน 60 วัน ถ้าไม่เสร็จถือว่าเห็นชอบ กฎหมายจึงต้องเสร็จจาก สนช. ภายในวันที่ 27 มกราคม 2561 จากนั้นใช้เวลาอีก 30 วัน ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ กกต. และ กรธ. พิจารณา ผลคือภายในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ กฎหมายต้องเสร็จพร้อมที่นำขึ้นทูลเกล้าเพื่อลงพระปรมาภิไธย ซึ่งหากใช้เวลา 30 วัน แปลว่าวันที่ 28 มีนาคม 2561 จะเป็นวันนับหนึ่งของการเลือกตั้งซึ่งตามมาตรา 268 การเลือกตั้งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน กล่าวคือภายในวันที่ 25 สิงหาคม 2561 จะต้องมี ส.ส. ครบตามจำนวนที่จะประชุมสภาได้ ดังนั้น การเลือกตั้งจึงต้องจัดให้มีขึ้นภายในไม่เกินวันที่ 25 มิถุนายน เพราะต้องเผื่อเวลาไว้ 60 วัน เพื่อประกาศผลและเลือกตั้งซ่อม
เมื่อมีการเลือกตั้งอำนาจจะกลับมาอยู่ในมือของประชาชนอีกครั้ง ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยย่อมมีอำนาจที่จะกำหนดกฎเกณฑ์หรือกติกาของประเทศเสียใหม่ ซึ่งรวมถึงการทำประชามติเพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนมาใช้แทนฉบับที่เผด็จการร่างขึ้น เปรียบได้กับการถูกโจรปล้น การที่เจ้าของบ้านต้องทำตามคำสั่งหรือกติกาที่โจรกำหนดไม่ได้แปลว่ายินยอมหรือเห็นด้วยกับโจร เมื่อโจรล่าถอยไปแล้วเจ้าของบ้านย่อมมีเสรีภาพที่จะใช้อำนาจของตนซึ่งรวมถึงการดำเนินคดีกับโจรด้วย อย่าสิ้นหวังมาช่วยกันนับถอยหลัง ความอัปยศที่ต้องทนอยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการใกล้สิ้นสุดแล้ว อีกไม่นานเกินรอครับ
วัฒนา เมืองสุข
สมาชิกพรรคเพื่อไทย
19 พฤศจิกายน 2560
ตัวผมได้เขียนไว้หลายครั้งว่า การที่คณะผู้ครองอำนาจมั่นใจว่า รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 เขียนไว้ให้แก้ได้ยากสุด มันไม่จริงหรอกครับ เดี๋ยวประชาชนก็จะจัดการ อีกสักครู่ประชาชนก็จะกวาด เพราะเวลานี้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยแท้จริงรู้แล้วว่า มันคือคัมภีร์อะไร ประชาชนก็จะปลดแอกด้วยการทำประชามติแล้วก็เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ซะ
มันจะเป็นดั่งที่ท่านรัฐมนตรีวัฒนาเขียนไว้
ดังนั้นตัวผมจึงเห็นว่าไม่มีประโยชน์ถ้า ฉลามเขียว จะเขียนวิเคราะห์การปรับครม. ใครจะอยู่ ใครจะเข้ามาใหม่ ซึ่งไม่เกิดผลอะไรต่อประชาชน และสำหรับตัวผมวันนี้ยังไม่กล้าแสดงความยินดีที่ ไม่ทิ้งพี่ ไม่ทิ้งเพื่อน ตามที่ผมเขียนกราบเรียนไป โดยข่าวบอกว่ายังอยู่ครบทุกคน กระนั้นผมก็ยังยักท่าไม่กล้าแสดงความยินดีให้ตัวเอง รอให้ประกาศชัดก่อนแล้วค่อยเอาประเด็นมาคุยกัน ทำไมผมจึงให้กำลังใจท่าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยการเขียนบอกท่านไปอย่างนั้น
วันเสาร์ผมขับรถไปเที่ยวเมืองพัทยา ชลบุรี เห็นมีป้ายประกาศแจ้งให้ประชาชนรู้ว่า จะปิดถนนเลียบชายหาด พัทยาสาย 1 ตั้งแต่เช้ามืดถึงมืดวันอาทิตย์ เพื่อเตรียมรับงานชุมนุมเรือของ 10 ชาติอาเซียนในอ่าวพัทยา ซึ่งเมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ 19 พ.ย.2560 ท่าน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ได้ปรากฏตัวนับแต่มีข่าวจะหลุดเก้าอี้ รมว.กลาโหม ไปเป็นประธานเปิดงานนี้แล้ว และข่าวก็ยังยืนยัน วันจันทร์ 20 พ.ย. ท่านจะลงเรือลำเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่จะมาเป็นประธานในงาน ผมอ่านข่าวแล้วก็ชื่นใจ ที่พี่น้องยังอยู่ด้วยกันอย่างเหนียวแน่น ใครก็แซะไม่ได้
วันนี้ผมหันรีหันขวาง จะเขียนเรื่องการเมืองไทยก็เซ็งๆ ยังไม่มีประเด็นอะไรร้อนแรงใหม่ จึงเห็นว่าประเด็นโค่นหัวหน้ารัฐบาลที่แก่ที่สุดในโลก อยู่ยาวที่สุดในโลกเป็นหัวหน้ารัฐบาลมันคนเดียวต่อเนื่องมา 37 ปี ขนาด “ฮุน เซน” นายกรัฐมนตรีเขมรก็เพิ่งแค่ 32 ปี ตัวผมจึงขอเขียนเรื่องราวของ “โรเบิร์ต มูกาเบ” ประธานาธิบดีแห่งประเทศซิมบับเว อีกวันนะครับ ยังมีอีกประเด็นที่ผมขอนำมาชวนคนไทยพูดคุย
���รงกดดันจากนานาชาติ... จึงทำให้ทหารซิมบับเวไม่ยอมประกาศเป็นรัฐประหาร ทั้งๆที่ทำอย่างนี้ เอาปืนของกองทัพมาจี้หัวหน้ารัฐบาล มันก็รัฐประหารนั่นแหละ แต่ก็เอาเถอะเมื่อท่านบอก ไม่ใช่รัฐประหารนะจ๊ะ เรามาเพื่อปราบอาชญากรรมที่ทำให้ซิมบับเวประสบความเลวร้ายทั้งทางการเมืองเศรษฐกิจ เหล่าอาชญากรที่อยู่รอบๆตัวมูกาเบ ผมก็อยากให้เราคนไทยศึกษากรณีในมุมนี้
เราจะทำอย่างไรจึงจะทำให้นานาชาติสร้างแรงส่งมาถึงไทย กดดันไม่ให้มีการรัฐประหารเกิดขึ้นอีกในไทย หลังจากที่พวกเราได้ทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วเขียนให้เป็นรัฐธรรมประชาธิปไตย ที่ประชาชนเป็นใหญ่นิรันดร
The military maintains this is not a coup and there is international pressure to use constitutional means to resolve the political crisis. Negotiators are poring through Zimbabwe's laws to find a legal way out.
ความภาษาอังกฤษท่อนนี้ในข่าวของ BBC เช้า 19 พ.ย.2560 คือประเด็นของผมในวันนี้
ด้วยแรงกดดันของนานาชาติทำให้ทหารซิมบับเวไม่เรียกมันว่าเป็นรัฐประหาร แล้วก็กำลังร่วมมือกับหลายฝ่ายใช้วิธีเจรจาเพื่อให้มูกาเบ ยอมลาออก เพื่อเปลี่ยนผ่านอำนาจการเมืองตามกฎหมาย
น่ารักจริงๆ
เพราะตัวผมไม่อยากให้ประเทศไทยเกิดรัฐประหารอีก ชีวิตนักข่าวของผมผ่านช่วงทหารทำรัฐประหารแล้วหลายยุด มันพิสูจน์ชัดเจนแล้วครับ เผด็จการทหารแก้ไม่ได้ทุกปัญหา ที่โม้ๆกันว่ายุติความขัดแย้งได้ก็ไม่จริงหรอกครับ ความขัดแย้งทุกอย่างยังคงอยู่ เพราะเล่นงานฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายลอยนวล มันก็แค่เพลาๆลงเพราะกลัวอำนาจ ขณะที่ความเสียหายทางเศรษฐกิจมันมหาศาลมาก
ที่ผมพูดอย่างนี้หมายถึงยุคเผด็จการทหารในอดีตนะครับ ผมจึงไม่อยากให้เกิดรัฐประหารอีกเลย ป้องกันได้โดยให้เราคนไทยช่วยกันสร้างระบอบประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง ให้ทุกคนยอมรับหลักการของระบอบนี้ ประชาขนทุกคนมีสิทธิเสรีภาพบริบูรณ์ ตัดสินกันด้วยเสียงข้างมาก จริงอยู่เสียงข้างมากไม่ใช่จะถูกต้องทั้งหมด แต่ถ้าเราไม่ใช้เสียงข้างมากตัดสินและไม่ยอมรับมัน ก็เหลือทางเดียวคือ ลากปืนมารบกัน แล้วชาติบ้านเมืองเราก็พินาศ
ผมจึงย้ำเขียนเรื่องของทหารประเทศซิมบับเวอีกในวันนี้ เขียนเพื่อชื่นชมสหภาพประเทศแห่งทวีปแอฟริกา แข็งแกร่งจริง แพ็คกันหนึบ แผ่รังสีอำมหิตกดทหารทุกชาติในแอฟริกา อย่าแก้ปัญหาด้วยการรัฐประหาร ทำให้ทหารซิมบับเวใช้วิธีเปิดเจรจากับมูกาเบรอบแรกไปแล้วเมื่อวันศุกร์ ยังไม่ยอมลาออก วันอาทิตย์ 20 พ.ย.2017 จะเจรจาอีกรอบในเวลา 10.30 น. เวลาบ้านเราก็เช้าวันจันทร์ โดยบาทหลวงคาทอลิก “Fidelis Mukonori” เป็นหัวหน้าเจรจา ผู้นำทหารและรองประธานาธิบดีเข้าร่วมด้วย ขอให้มูกาเบลาออกเป็นครั้งที่ 2
ขณะที่เมื่อวันเสาร์ ทหารซิมบับเว จัดเดินขบวนใหญ่กลางเมืองหลวงกรุงฮาราเร สมาชิกพรรค Zanu PF พรรคของมูกาเบมาร่วมหลายหมื่นคน โห่ร้อง เต้นรำ ชูป้าย ฉีกรูป ให้มูกาเบลาออกซะ
วันอาทิตย์ ระหว่างการเจรจารอบ 2ใน blue roof house บ้านหลังคาสีน้ำเงินของมูกาเบ ทางพรรคซานูพีเอฟ ก็เรียกประชุมพรรค เพื่อลงมติ ปลดมูกาเบออกจากหัวหน้าพรรค และถอด “เกรซ มูกาเบ” ออกมาหัวหน้าสตรีของซานูพีเอฟ
ทั้งหลายทั้งปวงนั้น เพื่อให้ทหารไม่ใช้คำว่ารัฐประหาร ทำเพื่อให้เกิดการถ่ายโอนอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ตามแรงกดดันของนานาชาติ
ผมก็เห็นว่าน่ารัก ก็เอามาเขียนให้คนไทยรับไว้พิจารณา เมื่อพวกเราได้เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ รัฐธรรมนูญที่เขียนโดยประชาชน ใส่มาตรการเหล่านี้ ใส่วิธีการเหล่านี้ไว้ก็อาจจะดีนะครับ ให้ลูกพรรคที่เป็นแกนนำรัฐบาลถอดหัวหน้าพรรคออกได้ แล้วให้พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคแล้ว ถอดเมื่อเห็นว่า หัวหน้าเดินไม่ไหว ขืนปล่อยไปโดนทหารรัฐประหารแน่ๆ
รัฐประหารไม่ดี เศรษฐกิจยับเยิน
ฉลามเขียว
19 พฤศจิกายน 2560