นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ว่า แม้จะไม่ขัดรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีการเลือกตั้งตามโรดแมปที่ คสช. วางไว้ในเดือน ก.พ. 2562 แต่ คสช. จะอ้างสาเหตุอะไร ไม่สามารถคาดการณ์ได้ อย่างที่ผ่านมาก็เลื่อนมาได้หลายครั้งแล้วด้วยวิธีการต่างๆ ส่วนใหญ่มักอ้างเงื่อนไขทางเทคนิคในการเขียนกฎหมาย แต่ คสช.มีอำนาจมากกว่านั้น อาจจะออกคำสั่งอะไรแปลกๆ มาอีกก็ได้ เป็นกฏหมายใหม่ หรือแก้กฎหมายอีก ซึ่งอาจจะทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปได้
ดังนั้น การเลือกตั้งจะไม่มี ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.จะแน่ใจว่า เลือกตั้งแล้วตนเองจะได้กลับมาเป็นนายกฯ เพราะฉะนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องการเวลาในการเตรียมความพร้อมสำหรับการกลับมาเป็นนายกฯ ซึ่งต้องดูว่าพล.อ.ประยุทธ์จะสามารถรวบรวมเสียงได้ถึง 251 เสียงหรือไม่ ซึ่งขั้นแรกต้องให้ได้ 125 เสียงก่อน และไปรวมกับ ส.ว. เพื่อเลือกพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ หลังจากนั้น ก็ต้องมีเสียงสนับสนุนอีก 125 เสียง เพื่อพิจารณาผ่านกฎหมายต่างๆ แต่ถ้ามีความพร้อมก็อาจจะให้เลือกตั้งเร็วก็ได้
“ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่มั่นใจ ถ้าเลือกตั้งไปยึดไม่ได้แน่ ก็อาจจะต้องหาทางเลื่อนออกไป และจะเลื่อนได้อย่างไร อย่างที่เคยทำมาก็คือแก้กฏหมาย ไม่ใช่แก้ในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แต่อาจใช้วิธีออกคำสั่ง คสช. ก็เป็นการแก้กฏหมายได้ทันทีเหมือนกัน และอาจทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไป หรือไม่ก็อาจจะใช้คำสั่ง คสช. เอาดื้อๆ เช่น เหตุการณ์ยังไม่สงบ ก็อาจทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปได้”
ส่วนกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประกาศแนวนโยบายฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ทิ้งทั้งฉบับนั้น นายจาตุรนต์ เห็นว่า การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญบางส่วนหรือจะยกเลิกทั้งฉบับแล้วเขียนขึ้นใหม่ สามารถทำได้ตามกระบวนการประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องน่าตกใจหรือผิดกฏหมาย แต่หากใครมีเจตนาในการฉีกรัฐธรรมนูญด้วยการใช้กำลังของกองทัพเข้ายึดอำนาจ ถ้าเป็นขั้นพยายามถือว่าผิดกฏหมายในการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยหรือเป็นกบฎ แต่ในกรณีของพรรคอนาคตใหม่เป็นเพียงการเล่นคำพูด
“พอใครมาพูดฉีกรัฐธรรมนูญ ทำเป็นตื่นเต้นตกใจ ทำเป็นจะมีปัญหา เป็นการแสดงให้ดูเหมือนกับว่า ฉันต้องการรักษารัฐธรรมนูญใครจะมาทำอะไรกับรัฐธรรมนูญไม่ได้ ความจริงก็เข้ามามีอำนาจด้วยการฉีกรัฐธรรมนูญล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย” นายจาตุรนต์ ระบุ
ส่วนการเรียกร้องให้ คสช.เอาผิดนายธนาธร ตามมาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่นนั้น นายจาตุรนต์ เห็นว่า ไม่สามารถเอาผิดได้ กฏหมายนี้เป็นเพียงเครื่องมือในการรักษาอำนาจของ คสช.เป็นหลัก ไม่ได้ใช้เอาผิดหรือลงโทษของคนที่ทำตามกฏหมายได้ การจะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 116 นั้นต้องปลุกปั่นต่อต้านรัฐบาลถึงขั้นเปลี่ยนแปลงโดยวิธีที่ไม่เป็นตามความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การที่พรรคการเมืองออกมาประกาศว่าจะแก้รัฐธรรมนูญนั้นสามารถทำได้ ในฐานะที่เป็นพรรคการเมือง แต่จะต้องทำตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยมองพรรคอนาคตใหม่เป็นมิตรแท้หรือศัตรูทางการเมือง นายจาตุรนต์ ระบุว่า เป็นคู่แข่งขันกันทางการเมืองโดยธรรมชาติของระบบการเลือกตั้ง และถ้ามองจากจุดยืนของทั้งสองพรรคที่ต้องการให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย เรามีอะไรที่สอดคล้องกันมากแต่ก็ต้องดูทิศทางนโยบายด้านอื่นๆ ประกอบด้วย ขณะนี้พรรคเพื่อไทย ไม่เห็นว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นศัตรูด้วยประการใดๆ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง