การประกวดมิสยูนิเวิร์สประจำปี 2017 ที่นครลาสเวกัส สหรัฐฯ มีการให้ผู้เข้าประกวดตอบคำถาม 2 รอบเหมือนทุกๆปี นั่นก็คือรอบ 5 คนสุดท้าย และรอบ 3 คนสุดท้าย โดยคำถามที่เป็นที่จับตามอง คือคำถามรอบ 5 คนสุดท้าย เนื่องจากจะเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับปัญหาสังคมและการเมืองโลก ในขณะที่คำถามรอบ 3 คนจะเป็นการเปิดโอกาสให้นางงามได้โชว์วิสัยทัศน์ต่อตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สมากกว่าประเด็นทั่วๆไป
มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ได้เข้าถึงรอบตอบคำถาม 5 คนด้วย โดยเธอถูกถามว่า
"อะไรคือความเคลื่อนไหวทางสังคมที่สำคัญที่สุดในยุคของคุณ เพราะอะไร"
มารีญาตอบว่า
“ฉันคิดว่าการเคลื่อนไหวทางสังคมที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือการที่เรามีสังคมสูงวัย แต่ความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดก็คือเยาวชน เยาวชนคืออนาคต คือสิ่งที่เราควรลงทุน เพราะว่าพวกเขาคือคนที่ต้องดูแลโลกที่เราอยู่”
แต่สุดท้าย เธอก็ไม่ได้ผ่านเข้ารอบ 3 คนสุดท้าย
เคย์ซี ซายาโก มิสเวเนซุเอลา ถูกถามคำถามที่เกี่ยวพันกับคนทั่วโลกอย่างเรื่องโซเชียลมีเดียนั่นคือ
"โซเชียลมีเดียเป็นสิ่งสำคัญที่เราใช้เรียนรู้คนอื่น คุณคิดว่าโซเชียลมีเดียมีผลทางบวกหรือลบกับการตัดสินความงาม"
เคย์ซีตอบว่า
“โซเชียลมีเดียเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้น เราต้องใช้โซเชียลมีเดียในทางบวก และยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ เบื้องหลังโซเชียลมีเดีย มีคนดีๆที่คุณสามารถรู้สึกถึงตัวตนของพวกเขาได้ เราทุกคนสมควรได้รับความเคารพ”
เป็นอีกหนึ่งคำตอบที่ได้รับเสียงปรบมือโห่ร้องกึกก้อง แต่สุดท้ายแล้วมิสเวเนซุเอลาก็ไม่ได้ผ่านเข้ารอบ 3 คนเช่นกัน
เดมี เล นีล-ปีเตอร์ส มิสเซาท์แอฟริกา ผู้ครองตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สปีนี้ เป็นผู้ที่ตอบคำถามในรอบ 5 คนได้ดีมาก เธอถูกถามว่า
"ผู้หญิงคิดเป็น 49% ของแรงงานในโลก คุณคิดว่าอะไรคือประเด็นปัญหาใหญ่ที่สุดที่ผู้หญิงเผชิญ"
เดมีตอบอย่างมั่นใจว่า
“ผู้หญิงได้รับค่าแรงแค่ 75% ของผู้ชาย ทั้งที่ทำงานเหมือนกัน ชั่วโมงทำงานเท่ากัน ฉันคิดว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เราควรต้องมีความเท่าเทียมในการทำงานและรายได้ ทั่วทั้งโลก”
คำตอบที่ชัดเจนตรงประเด็นนี้ได้รับเสียงโห่ร้องตอบรับอย่างกึกก้องจากคนดู เพราะเรื่องค่าแรงที่ไม่เท่าเทียม กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงเสมอในการเมืองโลก
ดาวินา เบนเนตต์ ม้ามืดจากจาเมกา เป็นคนที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายมาได้ แต่เธอกลับได้เข้าถึงรอบลึกสุด และครองอันดับ 3 ในเวทีปีนี้ เธอถูกถามด้วยคำถามที่อิงกับกรณีอื้อฉาวใหญ่ที่สุดของแวดวงบันเทิงตอนนี้อย่างการล่วงละเมิดทางเพศดาราสาวจำนวนมากของฮาร์วี ไวน์สตีน ผู้สร้างชื่อดังของฮอลลีวูด
คำถามคือ
"การล่วงละเมิดทางเพศเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกตอนนี้ ทำไมมันถึงสำคัญสำหรับทั้งหญิงและชายที่จะแก้ปัญหานี้ร่วมกัน"
เธอตอบว่า
“การล่วงละเมิดทางเพศเป็นการละเมิดรูปแบบหนึ่ง และการล่วงละเมิด ไม่ว่าจะในรูปแบบใด ไม่ควรได้รับการยอมรับ ไม่ว่าจะในที่ทำงานหรือในสังคม ฉันคิดว่าทั้งชายและหญิงควรมาร่วมกัน ไม่ยอมรับเรื่องนี้ และควรบัญญัติเรื่องนี้ไว้ในกฎหมายด้วย”
เบนเนตต์สับสนเล็กน้อยในช่วงท้ายของคำตอบ แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ และคำพูดที่ทรงพลังของเธอก็สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้ไม่น้อย
ลอรา กอนซาเลซ มิสโคลอมเบีย หนึ่งในตัวเต็ง และได้ครองแชมป์รองอันดับ 1 ประจำปีนี้ ได้รับคำถามที่ยากที่สุดคำถามหนึ่งบนเวที นั่นก็คือเรื่องก่อการร้าย ซึ่งโคลอมเบียเป็นประเทศที่ผ่านความรุนแรงจากการก่อการร้ายและการแบ่งแยกดินแดนมาอย่างโชกโชน
คำถามคือ
"การก่อการร้ายเป็นภัยคุกคามหลักที่โลกเผชิญ ในฐานะมิสยูนิเวิร์ส คุณต้องพูดคุยเรื่องนี้กับคนทั้งโลก คุณจะอธิบายการก่อการร้ายให้เด็กฟังอย่างไร"
เธอตอบว่า
“ฉันไม่เคยตกเป็นเหยื่อของการก่อการร้าย คงไม่สามารถอธิบายได้ว่าคนที่โดนรู้สึกอย่างไร แต่ถ้าฉันมีโอกาสได้พูดกับเด็ก ฉันจะบอกว่าได้โปรดเถอะ ทั้งคนรุ่นฉันและรุ่นเธอ ไม่ควรต่อสู้กันด้วยอาวุธอีกต่อไป แต่ควรทำงานร่วมกัน มีสันติภาพ มิตรภาพร่วมกัน และมีความรักให้แก่กัน”
เป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบสไตล์นางงาม ซึ่งมีส่วนไม่น้อยในการส่งเธอถึงรอบ 3 คนสุดท้าย
คำถามสุดท้ายในรอบ 3 คน หรือ Final Words ที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันทั้งในทางบวกและลบ คือของมิสเซาท์แอฟริกา ทุกคนได้รับคำถามเดียวกัน ว่า
"คุณคิดว่าอะไรคือคุณสมบัติสำคัญที่สุดที่จะทำให้คุณได้เป็นมิสยูนิเวิร์ส และคุณจะใช้มันอย่างไรหลังจากได้ตำแหน่ง"
เดมีตอบว่า
“การเป็นมิสยูนิเวิร์ส สำคัญที่สุดคือต้องมั่นใจในตัวเอง กว่าจะเป็นได้ต้องก้าวข้ามความกลัวหลายอย่าง เธอจึงสามารถนำพาผู้หญิงคนอื่นให้ก้าวข้ามความกลัวได้เช่นกัน สำหรับเธอ ไม่เคยมีอะไรยากเกินไป และนั่นคือสิ่งที่ฉันเป็น”
เป็นคำถามที่หลายคนมองว่าไม่ได้ตอบอะไร วกวน แต่ในอีกทาง ปรัชญาของกองประกวดมิสยูนิเวิร์สคือ "confidently beautiful" หรือ "สวยอย่างมั่นใจ" เพราะฉะนั้นคำตอบของเดมี จึงถือว่าเข้าถึงแก่นแท้ของมิสยูนิเวิร์สอย่างสมบูรณ์
