ต่างประเทศ
เปิดประวัติ 'วิชัย ศรีวัฒนประภา' บุคคลสำคัญของ 'เลสเตอร์ซิตี้' และ 'คิงเพาเวอร์'
ตำรวจในมณฑลเลสเตอร์เชอร์ของอังกฤษ เผยความคืบหน้ากรณีเฮลิคอปเตอร์ของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ ตกลงที่ลานจอดรถใกล้กับสนามฟุตบอลคิงเพาเวอร์ในเมืองเลสเตอร์เมื่อวานนี้ (27 ต.ค.) โดบเจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงว่า ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 20.38 น.วันที่ 27 ต.ค. 2561 ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งหน่วยดับเพลิง เจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน และตำรวจ รุดไปยังที่เกิดเหตุในเวลาไม่นาน ส่วน 'หน่วยสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศ' (AAIB) จะรับผิดชอบการไต่สวนข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าวต่อไป
ขณะเดียวกัน โฆษกของสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ระบุว่า พร้อมร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม และยืนยันว่า จะเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนอย่างเป็นทางการต่อสาธารณชนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทั้งตำรวจและโฆษกของเลสเตอร์ซิตี้ ไม่ยืนยันว่านายวิชัยอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวหรือไม่
อย่างไรก็ตาม สื่ออังกฤษหลายสำนักรายงานอ้างอิงพยานผู้เห็นเหตุการณ์ อ้างว่า นายวิชัยได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว เพื่อเดินทางออกจากสนามคิงเพาเวอร์หลังจากการแข่งขันฟุตบอลเมื่อวานนี้จบลง แต่หลังจากขึ้นบินได้ไม่นาน เครื่องยนต์ของเฮลิคอปเตอร์ดับกลางอากาศ ทำให้เครื่องสูญเสียการควบคุม และตกกระแทกลานจอดรถ ไฟลุกท่วมนานกว่า 20 นาที กว่าเจ้าหน้าที่จะดับเพลิงได้สำเร็จ
เจ้าหน้าที่ของอังกฤษ ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อระบุว่า ไม่น่าจะมีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ผู้เกี่ยวข้องกับสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ระบุว่าทุกฝ่ายต่างสวดภาวนาเพื่อให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ทั้งยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับแวดวงฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษอีกหลายราย ร่วมส่งกำลังใจให้ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว
(ทวิตเตอร์แฟนคลับสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้เผยแพร่ภาพนายวิชัยพร้อมส่งกำลังใจให้ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ฮ.ตก)
(ปาโบล ซาบาเลต้า จากทีมฟุตบอลเวสต์แฮมยูไนเต็ด ร่วมให้กำลังใจผู้เกี่ยวข้องเหตุ ฮ.ตก)
(เบนจามิน เมนดี นักเตะของแมนเชสเตอร์ซิตี้ ระบุว่าเหตุที่เกิดขึ้นช่างน่าเศร้าและน่ากลัว)
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 29 ต.ค. สโมสรเลสเตอร์ซิตี้ได้เผยแพร่แถลงการณ์ยืนยันว่านายวิชัยเป็นหนึ่งใน 5 ผู้เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในวันที่ 27 ต.ค.
สื่อนอกเปิดประวัติ 'วิชัย ศรีวัฒนประภา'
หลังเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก สื่อต่างประเทศหลายสำนักต่างรายงานประวัติความเป็นมาของนายวิชัย โดยระบุว่า เขาเป็นมากกว่าเจ้าของสโมสรฟุตบอล แต่เป็นถึงมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยติดอันดับ 5 ของไทย จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ และเป็นผู้สนับสนุนให้ทีมเลสเตอร์ซิตี้มีพัฒนาการขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด
นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า นายวิชัยมีทรัพย์สินรวมกว่า 4,900 ล้านดอลลาร์ฯและถือหุ้นร้อยละ 4 ของแอร์เอเชีย รวมถึงเป็นประธานบริหารกลุ่มคิงเพาเวอร์ ผู้คุมตลาดดิวตี้ฟรีของไทย ทั้งยังเคยได้รับโอกาสให้เข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิดกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์อังกฤษ เนื่องจากเขาเป็นผู้ที่ชื่นชอบกีฬาขี่ม้าโปโลเช่นเดียวกัน
นายวิชัยซื้อกิจการสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ในปี 2553 และเข้าถือหุ้นเพิ่มเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ในปี 2554 จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานสโมสรฯ อย่างเต็มตัว และในสมัยของนายวิชัย ทีมเลสเตอร์ซิตี้สามารถสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองได้สำเร็จเมื่อปี 2559 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของทีม
ทั้งนี้ นายวิชัยมีนามสกุลเดิมว่า 'รักศรีอักษร' สมรสกับนางเอมอร และมีบุตรด้วยกันทั้งหมด 4 คน
วอชิงตันโพสต์รายงานด้วยว่า เมื่อปี 2532 นายวิชัยได้รับสัมปทานเปิดกิจการดิวตี้ฟรีแห่งแรกของประเทศไทย ก่อนจะขยายสาขาไปยังท่าอากาศยานต่างๆ และหน่วยวิเคราะห์วิจัยของนิตยสารฟอร์บส์ประเมินว่ากิจการในเครือคิงเพาเวอร์ มีมูลค่ากว่า 4,880 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.56 แสนล้านบาท) จนแทบจะเป็นผู้ผูกขาดตลาดดิวตี้ฟรีในประเทศไทย
แม้คิงเพาเวอร์จะตกเป็นเป้าตรวจสอบกรณีที่ผู้บริหารของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ถูกกล่าวหาว่าเอื้อประโยชน์ให้คิงเพาเวอร์ เพราะเรียกเก็บเงินสัมปทานไม่ครบถ้วน ทำให้รัฐเสียหายกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท แต่ศาลไทยสั่งยกฟ้องไปเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา
ส่วนกิจการอื่นๆ ของนายวิชัย รวมถึงสโมสรฟุตบอลโอเอช-ลูเวินของเบลเยียม, โรงแรมพูลแมนในเครือแอคคอร์ และหุ้นมูลค่ากว่า 226 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7,232 ล้านบาท) ในสายการบินไทยเอร์เอเชีย และเขายังเป็นผู้ก่อตั้งทีมขี่ม้าโปโล 'King Power Foxes ในอังกฤษเมื่อปี 2557 อีกด้วย
ที่มา: AFP/ Bloomberg/ Goal/ Independent/ Leicestershire Police/ Telegraph
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
