ไม่พบผลการค้นหา
ศาลชารีอะของมาเลเซียสั่งเฆี่ยนผู้หญิง 2 คน ในข้อหามีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน หลังมีคนแจ้งว่าทั้งคู่พยายามมีเซ็กส์กันบนรถยนต์ใกล้จัตุรัสกลางเมือง ด้านนักสิทธิ LGBTQ ร่วมกันประณามคำตัดสินนี้ว่าการเฆี่ยนถือเป็นการทรมาน

ศาลชารีอะของรัฐตรังกานูของมาเลเซียตัดสินลงโทษเฆี่ยนผู้หญิงวัย 32 ปีและ 22 ปี คนละ 6 ครั้ง พร้อมปรับเป็นเงิน 3,300 ริงกิตหรือเกือบ 27,000 บาท ในข้อหามีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน หลังพวกเธอถูกจับกุมขณะพยายามมีเพศสัมพันธ์กันในรถบริเวณจัตุรัสกลางเมือง เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ ผู้หญิงทั้งสองคนได้รับการประกันตัวไปแล้ว และมีกำหนดจะต้องรับโทษในวันที่ 28 ส.ค.นี้ แต่ทั้งคู่ยังมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ได้

ผู้พิพากษาศาลชารีอะ อธิบายว่า ผู้หญิงทั้งสองคนควรต้องได้รับบทลงโทษที่หนักพอสำหรับความผิดครั้งนี้ เพื่อให้เป็นบทเรียนและเครื่องเตือนใจสำหรับทั้งคู่ รวมถึงคนในสังคมด้วย

มาเลเซียมีระบบกฎหมายแบ่งออกเป็น 2 แบบ โดยศาลชารีอะจะพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและครอบครัว ซึ่งคดีที่มีเพศสัมพันธ์ทางปากหรือทางทวารจะมีบทลงโทษตั้งแต่ปรับ เฆี่ยน ไปจนถึงจำคุก 20 ปี ไม่ว่าผู้กระทำผิดจะเป็นคนเพศเดียวกันหรือคนต่างเพศกันก็ตาม

อย่างไรก็ตาม คำตัดสินนี้ได้จุดกระแสให้นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนร่วมกันออกแถลงการณ์คัดค้านคำตัดสินดังกล่าว โดยแอมเนสตี้ อินเทอร์เนชันแนล มาเลเซีย ระบุว่า การเฆี่ยนถือเป็นการทรมาน และเรียกร้องให้รัฐบาลมาเลเซียยกเลิกกฎหมายลงโทษคนชายขอบของสังคมอย่างกลุ่ม LGBTQ พร้อมระบุว่า กลุ่มหลากหลายทางเพศกำลังเผชิญแรงกดดันจากรัฐบาลมาเลเซียมากขึ้นเรื่อยๆ และคำตัดสินนี้เป็นตัวบ่งชี้ถึง “บรรยากาศที่น่ากังวล” ที่มีการเลือกปฏิบัติทางเพศ และมีภัยคุกคามชีวิตและความปลอดภัยของกลุ่ม LGBTQ ในมาเลเซียมากขึ้นเรื่อยๆ

เครือข่ายองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน 10 องค์กรของมาเลเซียก็ออกแถลงการณ์ร่วมกันประณามผลการตัดสินว่า คำตัดสินเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีของผู้หญิงทั้งสองคนอย่างน่ารังเกียจ โดยระบุว่า การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างผู้ใหญ่ที่ตกลงใจยินยอมกันแล้วไม่ใช่อาชญากรรม เครือข่ายด้านสิทธิมนุษยชนจึงมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับผลกระทบของการลงโทษ ไม่ใช่ของผู้หญิง 2 คนนี้เท่านั้น แต่รวมไปถึงกลุ่มหลากหลายทางเพศทั้งหมดด้วย เพราะการลงโทษเช่นนี้จะเป็นการเติมเชื้อไฟแห่งความเกลียดชัง การเลือกปฏิบัติ และความรุนแรงต่อกลุ่ม LGBTQ

เครือข่ายองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนยังระบุว่า รัฐบาลใหม่ของมาเลเซียเคยยืนยันมาแล้วหลายครั้งว่า ชาวมาเลเซียที่มีความหลากหลายทางเพศจะได้รับการคุ้มครองในฐานะพลเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญมาเลเซีย พวกเขาจึงเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลปากาตัย ฮารัปปันปกป้อง ส่งเสริม และเติมเต็มสิทธิที่ขาดหายไปของประชาชน รวมถึงประชาชนที่มีความหลากหลายทางเพศด้วย และเรียกร้องให้รัฐบาลปากาตัน ฮารัปปันเข้าไปแทรกแซงคดีนี้ทันที และยุติการทรมานและทำให้ผู้หญิงสองคนนี้เป็นเหยื่อ

ที่มา : The Independent, Asian Correspondent