จากกรณีที่ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ แสดงความคิดเห็นถึงบทสัมภาษณ์ของเฌอปราง หนึ่งในสมาชิกวง BNK48 ว่าถ้าเป็นเฌอปรางแล้วเหนื่อย ก็ให้นอนเล่นอยู่บ้าน พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า คนทำงานไม่มีอาชีพไหนไม่เหนื่อย เพราะไม่ว่าจะอาชีพไหนก็ต้องเอาแรงงานแลกเงิน ถ้าไม่อยากเหนื่อยให้นั่งตะไบเล็บอยู่บ้าน
จากประโยคของ นายปวิน ข้างต้น ทำให้ 'โอตะ' ไม่พอใจ มีการตอบโต้กันผ่านโซเชียลมีเดีย และนายปวินย้ำว่า ไม่ได้บอกว่าน้องจะบ่นเหนื่อยไม่ได้ เพียงแต่บอกว่าถ้าบ่นเหนื่อย คุณเป็นบุคคลสาธารณะ ประชาชนมีสิทธิวิจารณ์ได้เสมอ
ซึ่งนอกจากเรื่องจะไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะมีการเพิ่มแรงดราม่าเข้าไปด้วย เนื่องจากมีผู้ใช้สื่อโซเชียลบอกว่า นายปวินเป็นผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ และพยายามโน้มน้าวโอตะว่าอย่าไปเลือกพรรคอนาคตใหม่ ทำให้นายปวินออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า พรรคคงไม่สนใจฐานเสียงที่เป็นโอตะเท่าไหร่ และตนไม่เคยอ้างตัวว่าเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ เพียงแต่เอ็นดูพรรคและธนาธร เลยสนับสนุนเต็มที่
ภายหลังจากมีกระแสดังกล่าวออกมาได้มีคนในพรรคอนาคตใหม่ อย่างคริส โปตระนันทน์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า "เห็นข่าวปวินออกมาแสดงความไม่มีวุฒิภาวะ ต่อแคปเฌอ และโอตะทั้งหลาย จริงๆ ปวินไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพรรคของเรานะครับ (แกเป็นแฟนคลับเราเฉยๆ ซึ่งเราก็ขอบคุณมาก แต่รอบนี้ผมในฐานะผู้ก่อตั้งพรรค แกล้ำเส้นไปมากจริงๆ) ไหนๆก็ไหนๆ เรามาจากปากหัวหน้าพรรคของเราเลยดีกว่า ว่า "แกเห็นยังไงกับแคปเฌอ!" ขอเชิญโอตะตัดสินนนนนนนนนนนนน #คริสโปตระนันทน์ #พรรคอนาคตใหม่ #ไทย2เท่า"
จากข้อความของโพสต์ข้างต้น ทำให้ นายปวิน โพสต์โต้กลับว่า ตอนเชียร์อนาคตใหม่ ต่างก็ยินดี แต่พอวิจารณ์เฌอปรางแล้วโอตะเอาตนเองไปเชื่อมโยงกับอนาคตใหม่ ก็ถูกปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวอะไรกับพรรค กลัวเสียคะแนนโอตะ เพราะตนเองไปวิจารณ์คนช่วยงานเผด็จการ อย่างนี้จุดยืนพรรคคืออะไร
โดยนอกจาก คริส โปตระนันทน์ แล้วยังมีสมาชิกผู้ยื่นจดตั้งพรรคอนาคตใหม่อีกคนคือ ภูวกร ศรีเนียน พ่อของหนึ่งในอดีตสมาชิก BNK48 ออกมายืนยันผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วยว่า นายปวิน เป็นนักวิชาการอยู่ต่างประเทศ ไม่ได้เกี่ยวข้องในทุกระบบการทำงานของพรรคอนาคตใหม่ คงมีแนวคิดทางการเมืองไปในทางเดียวกัน และรู้จักส่วนตัวกับคนในพรรค โดยส่วนตัวขอแสดงความเห็นกรณีโพสต์วิจารณ์ไอดอลของปวินว่า "ใช้คำพูดแย่มาก เสียความนับถือ"
ทั้งนี้ เฌอปรางได้ให้สัมภาษณ์กับ Time Out มีช่วงหนึ่งที่ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องเรียนว่า ตอนนี้เรียนอยู่ปี 4 ขึ้น ปี 5 ปีหน้าจะจบแล้ว งานเยอะมาก เรียนเช้าทำงานบ่าย ตั้งแต่เข้า BNK48 ก็ทำแบบนี้มาโดยตลอด การทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยมันเหนื่อยมากกว่าที่ทุกคนคิด และคำพูดที่ว่า "เป็นเฌอปรางมันเหนื่อยเนาะ" เป็นการบอกเล่าเรื่องราวชีวิตส่วนตัวหลังมีคำถามว่าเฌอปรางได้มีวันหยุดบ้างไหม แล้วช่วงวันหยุดที่ได้รับมานั้นเอาไปทำอะไรบ้าง ซึ่งเฌอปรางระบุว่า ชีวิตส่วนตัวก็ไม่ได้หายไปไหน ยังมีเวลาเจอเพื่อนบ้าง นานๆ ที
"เป็นเฌอปรางมันเหนื่อยเนาะ" (หัวเราะ) จริงๆ เฌอก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันต้องการมีชีวิตส่วนตัวอะไรหรอก แค่เขาไม่บ่นเวลาเฌอหายไป เฌอก็แฮปปี้มากแล้ว เพราะจริงๆ ถ้าเกิดเฌอหายไป คือเฌอนอนอยู่ ไม่ก็นั่งเล่นโทรศัพท์ นั่งดูยูทูบ ฟังเพลง การ์ตูนนี่ก็แทบไม่ได้ดูแล้ว เพราะไม่มีเวลาจะดู แต่เริ่มดู Netflix เพื่อการแสดงเลยนะคะ (หัวเราะ)" (*ตอนหนึ่งจากบทสัมภาษณ์ใน Time Out*)
'อนาคตใหม่' แจงความเห็นของสมาชิกคนในคนหนึ่งไม่ถือว่าเป็นมติหรือจุดยืนพรรค
พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ชี้แจงประเด็นดราม่าที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ว่า สมาชิกพรรคทุกคนมีฐานะเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกก่อตั้ง สมาชิกรายปี หรือตลอดชีพ ก็มี 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากัน ในการเลือกตั้งภายใน แต่คำพูดของสมาชิกคนใดคนหนึ่งไม่สามารถถือได้ว่าเป็นมติหรือจุดยืนพรรค
ในฐานะพรรคการเมือง การแสดงจุดยืนของพรรคอนาคตใหม่จะกระทำโดยมติคณะกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น โดยมีหัวหน้าพรรคหรือโฆษกพรรคเป็นผู้แทนในการแสดงเจตนาของพรรคตามภารกิจ
อย่างไรก็ตาม พรรคเคารพเสรีภาพในการแสดงความเห็นของสมาชิก และเรามีแนวปฏิบัติ คุณค่าพื้นฐานในการแสดงความเห็นทั้งออนไลน์และออฟไลน์ร่วมกัน แต่ไม่สามารถบังคับให้สมาชิกปฏิบัติตาม 100% ได้ เสรีภาพในการแสดงความเห็นของทุกคนจึงต้องมาพร้อมกับการรับผิดชอบส่วนบุคคลต่อการแสดงความเห็นนั้นด้วย
ส่วนพรรค เราไม่วิพากษ์วิจารณ์ตัดสินการแสดงความเห็นส่วนบุคคลของใคร และหวังว่าสังคมจะเปิดรับการวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ ไม่ลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้เห็นต่างหรือมีจุดยืนตรงข้ามกับตัวเอง
สิ่งที่พรรคจะต้องมีมาตรการต่อไป คือการทำความเข้าใจกับสมาชิกอย่างชัดเจนอีกครั้งว่าไม่สามารถนำความเห็นส่วนบุคคลเสนอต่อที่สาธารณะในนามของพรรคได้ ส่วนกรณีคุณเฌอปราง พรรคย้ำเสมอว่า ศิลปินควรมีเสรีภาพในการแสดงจุดยืนทางการเมือง หากเชื่อมั่นในระบอบอำนาจนิยมจริงๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะสนับสนุนรัฐบาลทหาร เป็นสิทธิ์ของศิลปิน แต่หากเชื่อในระบอบประชาธิปไตย เราขอสนับสนุนให้ศิลปินแสดงออกได้ในแบบเดียวกันโดยไม่ควรต้องเผชิญแรงกดดันจากต้นสังกัดหรือสังคม