วันที่ 25 ก.ย. 2565 นพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยกล่าวถึงการออกระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่กำหนดว่านับแต่ 24 ก.ย. 2565 ไปถึงจนวันเลือกตั้งทั่วไป ผู้สมัครและพรรคการเมือง ต้องรวมนับค่าใช้จ่ายต่างๆเป็นค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง และมีข้อห้ามอื่นๆเรื่องแจกของและวิธีการหาเสียงว่า เข้าใจได้ว่า กกต.ต้องทำตามที่กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. กำหนด บทบัญญัติเรื่องระยะเวลา 180 วันก่อนครบอายุสภาผู้แทนฯ แต่ก่อนไม่เคยมี และที่แปลก คือ ถ้าในการเลือกตั้งภายหลังการยุบสภา จะต้องใช้บทบัญญัติอื่นที่ระยะเวลาในการคำนวณค่าใช้จ่ายและห้ามกระทำบางเรื่องจะสั้นกว่ามาก ตนฟังว่านักการเมืองและพรรคการเมืองแม้อยากทำให้ถูกต้องแต่ก็กังวลว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้
นพดล กล่าวว่า กกต.ก็ได้ชี้แจง แต่ยังมีข้อกังวลต่ออีกว่าถ้านักการเมืองทั่วไปทำไม่ได้ แต่คนมีตำแหน่งทางฝ่ายบริหารเช่น รัฐมนตรีทำได้หรือไม่ อาจรู้สึกว่าลักลั่นกัน มีปัญหาเรื่องความเท่าเทียมเป็นธรรมในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งหรือไม่ นอกจากนั้นมีคำถามว่าข้อห้ามทำกิจกรรมที่ค่อนข้างนานกระทบต่อการดูแลช่วยเหลือประชาชนถ้ามีกรณีภัยพิบัติต่างๆหรือไม่
นพดลกล่าวต่อว่า ตนคิดว่าโจทย์สำคัญของการเลือกตั้งคือสุจริต เสรีและเป็นธรรม ดังนั้นกฎหมายเลือกตั้งต้องตอบโจทย์นี้ให้ได้ ถ้าบทบัญญัติเรื่องค่าใช้จ่ายและการห้ามทำกิจกรรมในบางเรื่องในช่วงเวลา 180 วันก่อนสภาผู้แทนราษฎร ครบวาระ ไม่ตอบโจทย์และไม่ได้ทำให้การเลือกตั้งสุจริต เสรีและเป็นธรรมมากขึ้น เราก็ต้องช่วยกันพิจารณาหาทางแก้ไข และพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะพิจารณาเรื่องนี้ร่วมกับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อปรับปรุงกฎหมายให้ดียิ่งขี้น "กฎหมายที่ดีต้องชัดเจน ปฏิบัติตามได้ สอดคล้องกับสามัญสำนึกและหลักนิติธรรม"