องค์กรเครือข่ายภาคประชาสังคมและองค์กรพัฒนาเอกชนภาคอีสาน ออกแถลงการณ์ เรียกร้องรัฐหยุดใช้อำนาจจับกุม ชาวเทพาที่เดินเท้าคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน
โดยแถลงการณ์ ระบุว่า คาราวะ พี่น้องชาวบ้านที่รวมตัวคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ของ กฟผ. ด้วยความจริงใจ แม้ว่าการเคลื่อนไหวต่อสู้ในครั้งนี้จะมีความยากลำบาก เพราะผู้มีอำนาจในบ้านเมืองเราปิดหูปิดตาที่จะรับฟังความจริงจากประชาชนในพื้นที่ ซ้ำร้ายผู้นำในยุคนี้ยังมีอคติกับกลุ่มที่คัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ในข้อกล่าวหาเดิมๆ คือ ขัดขวางการพัฒนาประเทศและถ่วงความเจริญ
หลายปีที่ผ่านมาพี่น้องชาวเทพา จังหวัดสงขลา ได้เดินทางเพื่อยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีให้รับทราบถึงความทุกข์ยากและปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตจากการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา แต่ไม่เคยมีเสียงตอบรับแต่อย่างใดจากผู้นำรัฐบาล
การเดินเท้าจำนวน 75 กิโลเมตร ของพี่น้อง ให้หยุดโรงไฟฟ้าถ่านหินเนื่องจากนายกรัฐมนตรี จะมาตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 และประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย อ.เมืองสงขลา ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 ดังนั้นเจตนาการเดินเท้าเพื่อไปหานายกรัฐมนตรีจึงเป็นความหวังของการบอกกล่าวปัญหาความเดือดร้อนให้ผู้นำรัฐบาลรับทราบ
นอกจากนี้ เนื้อหาแถงการณ์ยังประณาม การใช้กองกำลังเข้าสลายพี่น้องคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จังหวัดสงขลา ในวานนี้(27 พ.ย. 2560) ว่าเป็นการใช้อำนาจ อย่างป่าเถื่อนโดยไม่ยึดกับหลักกฎหมายใดๆทั้งสิ้น ผิดกับที่รัฐบาลได้ประกาศเรื่อง “สิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ” โดยไม่ยึดหลัก “สิทธิมนุษยชน” เป็นความเลวร้ายอย่างยิ่ง และการประกาศดังกล่าวเป็นเพียงลมปากเพื่อสร้างภาพเท่านั้น
พร้อมกันนี้ได้เรียกร้องให้รัฐบาล ดังนี้ 1. ให้ปล่อยตัวพี่น้องที่ถูกจับกุมโดยด่วนอย่างไม่มีเงื่อนไข2. ให้มีการสอบสวนในการใช้กองกำลังสลายการรวมตัวของประชาชนที่ชุมนุมโดยสันติ 3. ให้รัฐบาลยุติการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จังหวัดสงขลา
สำหรับองค์กรภาคประชาชน ทั้ง 36 องค์กรประกอบด้วย คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.อีสาน) , เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำอีสาน , เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภาคอีสาน , เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกภาคอีสาน, เครือข่ายปฎิรูปที่ดิน ภาคอีสาน, สมาคมผู้บริโภค จ.ขอนแก่น ,
สมาคมเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาเทือกเขาเพชรบูรณ์ ,สมาคมเครือข่ายชาวนาชาวไร่อีสาน ,สมาคมป่าชุมชนอีสาน สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและสาธารณะ ,ศูนย์ข้อมูลสิทธิมนุษยชนและสันติภาพอีสาน (ศสส.) ,ศูนย์พัฒนาเด็กเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมแม่น้ำโขง ,ศูนย์กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม
,ศูนย์พิทักษ์สิทธิการจัดการทรัพยากรชุมชนลุ่มน้ำชีตอนล่าง ,ศูนย์ศึกษาชุมชนท้องถิ่นอีศาน ,โครงการทามมูล ,กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ,คณะกรรมการชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากแนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 500kv. จ.อุดรธานี
เครือข่ายคนรุ่นใหม่กลุ่มลุ่มน้ำโขงศึกษา ,กลุ่มอนุรักษ์และฟื้นฟูลำพะเนียง ,กลุ่มอนุรักษ์แม่น้ำโขง อ.ปากชม จ.เลย ,เครือข่ายชุมชนฮักน้ำโขง ,ขบวนการอีสานใหม่ (New Esaan Movements) ,กลุ่มชาวบ้านอนุรักษ์แก่งละหว้า จ.ขอนแก่น
โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศห้วยเสนง จ.สุรินทร์ ,กลุ่มชาวบ้านอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศลุ่มน้ำชีตอนล่าง จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร ,สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนราษีไศล เขื่อนหัวนา จ.ศรีสะเกษ ,กลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย จ.ยโสธร ,เครือข่ายอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย จ.อำนาจเจริญ ,กลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาสภาคีเครือข่ายฯ จังหวัดสกลนคร,กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมห้วยเสือเต้นและโคกหินขาว จ.ขอนแก่น ,กลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม (ดาวดิน) ,ชมรมชาวบ้านอนุรักษ์ลำน้ำพอง จ.ขอนแก่น ,กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนามูนดูนสาด จ.กาฬสินธุ์ ,ขบวนองค์กรชุมชน จ.สุรินทร์ ,กลุ่มสมุนไพรเพื่อสันติภาพ
ส่วนความคืบหน้าล่าสุด มีผู้ที่ใช้เฟสบุ๊ค Tum Nipon ได้โพสต์ข้อความเมื่อเวลา 09.29 น วันนี้ (28 พ.ย) ว่า " ตอนนี้ เพื่อนผมหลายคนในภาพนี้กำลังถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ. สงขลาด้วยโทษฐานเพียงอยากเดินเข้าหานายกฯ เพื่อส่งหนังสือร้องเรียนให้ทบทวนโครงการในอนาคต ที่กำลังขับไล่พวกเขาออกจากบ้านเกิดด้วยสองมือและธงเขียวที่มี กลับถูกกระทำรุนแรงจากเจ้าหน้าที่รัฐ
ผมกำลังเดินทางไปเยี่ยม"