นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานรัฐสภายุโรปเปิดเผยว่า ผู้นำประเทศสมาชิกยุโรป 27 ประเทศรับรองข้อตกลง "เบร็กซิต" หรือการออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียู ของอังกฤษ หลังจากทั้งสองฝ่ายเจรจาเกี่ยวกับเงื่อนไขในการออกจากอียูมานานกว่า 18 เดือน นับตั้งแต่ที่อังกฤษใช้มาตรา 50 เพื่อขอออกจากอียู หลังจากทำประชามติเบร็กซิตเมื่อปี 2016
ในแถลงการณ์ของอียูระบุว่า ผู้นำอียูมีความตั้งใจจะสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับอังกฤษมากที่สุดเท่าที่จะทำได้หลังจากที่อังกฤษออกจาการเป็นสมาชิกอียูแล้ว แต่การเจรจาต่อรองทางการค้าต่างๆ ก็จะเป็นไปตามหลักการว่าประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกอียูจะไม่ได้รับสิทธิเทียบเท่ากับประเทศสมาชิก
แม้อียูจะรับรองข้อตกลงนี้แล้ว แต่เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะต้องนำดีลนี้กลับไปให้รัฐสภาอังกฤษพิจารณาและรับรองก่อน โดยข้อตกลงเบร็กซิตครอบคลุมทั้งเรื่องสิทธิพลเมือง การจ่ายเงินเพื่อออกจากการเป็นสมาชิก 39,000 ล้านปอนด์หรือ 1.65 ล้านล้านบาท ประเด็นเรื่องพรมแดนติดกับไอร์แลนด์ และแนวทางความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับอียู
มีการคาดการณ์ว่า รัฐสภาอังกฤษจะลงมติเกี่ยวกับดีลนี้ช่วงต้นเดือนธ.ค. นี้ เพื่อให้ทันกำหนดออกจาการเป็นสมาชิกอียูในเดือนมี.ค. 2019 แต่ผลการลงมติในครั้งนี้ยังเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก เนื่องจากหลายพรรคการเมืองของอังกฤษ รวมถึงสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมเองก็ต่อต้านดีลนี้ของนางเมย์
นางเมย์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยอมรับข้อตกลงนี้ โดยอ้างว่าข้อตกลงนี้เป็นดีลที่ดีที่สุดที่เธอสามารถจะเจรจาต่อรอง โดยที่ยังเคารพเสียงของประชาชนในการลงประชามติเบร็กซิต
ที่มา : BBC, The Guardian
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :