ไม่พบผลการค้นหา
สมาคมธนาคารไทยยันมีมาตรฐานพิสูจน์ตัวตนผู้เปิดบัญชี หลังกรณีมีผู้เสียหายถูกขโมยกระเป๋าเงินเป็นเหตุให้คนร้ายลักลอบนำบัตรประชาชนไปเปิดสมุดบัญชี 9 ฉบับ กับ 7 ธนาคาร จนถูกโยงเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีหลอกลวงติดคุกฟรี 2 คืน 3 วัน ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

สมาคมธนาคารไทยชี้แจงว่า ธนาคารสมาชิกทุกแห่งได้ออกระเบียบในการเปิดบัญชีเงินฝาก และการยืนยันตัวตนของผู้เปิดบัญชี ตามมาตรฐานและกฎเกณฑ์ของทางราชการ นอกจากนี้ ในทุกสาขาของธนาคารได้มีป้ายเตือน การรับเปิดบัญชีแทน ซึ่งถือเป็นความผิดทางกฎหมาย 

อีกทั้ง การเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร มี 4 ขั้นตอนการดำเนินการ ขั้นตอนที่ 1 ให้ลูกค้าแสดงตัวตน โดยให้แสดงข้อมูลและหลักฐาน อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งเป็นไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง วิธีการแสดงตนของลูกค้าสถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพ ตามประกาศของทางการ ขั้นตอนที่ 2 ตรวจสอบความถูกต้องของหลักฐานการแสดงตน โดยตรวจสอบบัตรผ่านเครื่องอ่านบัตร (Smart Card Reader)

ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการอ่านบัตรประชาชนปรากฏตรงกับข้อมูลบนหน้าบัตรประชาชน ขั้นตอนที่ 3 ตรวจสอบตัวตนของลูกค้ากับบัตรประชาชนที่นำมาเปิดบัญชี (ว่าเป็นบุคคลเดียวกัน) และขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบข้อมูลการแสดงตนของลูกค้าบนใบคำขอเปิดบัญชีว่าตรงกับข้อมูลบนหน้าบัตรประชาชน ��รือไม่ ซึ่งเมื่อธนาคารได้ดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวข้างต้นแล้ว จะดำเนินการเปิดบัญชีให้กับลูกค้า

ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น ธนาคารที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตรวจสอบ เพื่อทราบข้อเท็จจริงตามกฎระเบียบและวิธีปฏิบัติของธนาคาร รวมถึงให้ความร่วมมือกับทางราชการในการดำเนินการสอบสวนหาผู้กระทำผิด และจะมีการดำเนินการเพื่อดูแลและหาข้อสรุปที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป 

อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ดังกล่าว ธนาคารสมาชิกได้สื่อความเน้นย้ำและกำชับการปฏิบัติงานของพนักงานให้ปฏิบัติตามระเบียบกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัด และให้มีความรอบคอบและความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น รวมถึงได้มีมาตรการการสื่อสารชี้แจงและขอความร่วมมือลูกค้าถึงความจำเป็นในการเข้มงวดเรื่องการตรวจสอบตัวตน เมื่อเข้ามาเปิดบัญชีและใช้บริการภายในธนาคาร

นอกจากนี้ ในสมาคมฯ มีชมรมตรวจสอบและป้องกันทุจริต ซึ่งเป็นศูนย์รวมในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและทำงานร่วมกันในการที่ป้องกัน ลด และยับยั้งโอกาสการกระทำทุจริตทางการเงินต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น  

ด้านนายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า กรณีมีบุคคลนำบัตรประชาชนผู้อื่น เพื่อแอบอ้างเปิดบัญชีธนาคารนั้น ธปท. ได้มีประกาศ ธปท. ที่ สนส.7/2559 ระบุว่า สถาบันการเงินจะต้องทำการรู้จักลูกค้า (KYC : Know Your Customer) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของมาตรการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ซึ่งขณะนี้ ธปท. สั่งการให้ สถาบันการเงินตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อชี้แจงสาเหตุ และแนวทางที่ธนาคารพาณิชย์ได้ดำเนินการแล้วแก่ ธปท. โดยเร็วต่อไป

กรณีดังกล่าว "เวบไซต์ข่าวสด" รายงานว่าเกิดจากกรณีที่น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ผู้ต้องหาฉ้อโกง โดยน.ส.ณิชาถูกคนร้ายล้วงกระเป๋าขณะเดินทางไปทำงาน มีบัตรประจำตัวประชาชน บัตรเอทีเอ็ม หาย ต่อมาทราบว่า คนร้ายนำบัตรประชาชนไปขอเปิดบัญชีธนาคาร 7 แห่ง รวม 9 บัญชี ซึ่งพฤติกรรมคนร้ายได้หลอกให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีของน.ส.ณิชา จากนั้นเบิกเงินหลบหนีไป ทำให้น.ส.ณิชาเป็นผู้รับเคราะห์แทน ซึ่งมีเจ้าทุกข์เป็นเหยื่อเข้าแจ้งความ ที่สภ.บ้านตาก จ.ตาก