เมื่อช่วงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (14 ก.ย.) เบอร์นามารายงานอ้างคำกล่าวของศิวะกุมาร์ว่า กรมแรงงานของกระทรวงทรัพยากรบุคคลมาเลเซีย ได้ทำการออกค่าปรับเป็นเงินรวม 2.17 ล้านริงกิต (ประมาณ 16.58 ล้านบาท) ต่อนายจ้างจำนวน 272 ราย ในขณะที่ศาลมาเลเซียได้สั่งปรับนายจ้างจำนวน 128 ราย รวมเป็นเงิน 242,000 ริงกิต (ประมาณ 1.84 ล้านบาท)
ศิวะกุมาร์ระบุอีกว่า การละเมิดกฎหมายแรงงานมาเลเซีย ยังรวมถึงการหักค่าจ้างที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรบุคคลมาเลเซีย ไม่ได้ระบุชื่อบริษัทที่กระทำความผิด และไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับความผิดด้านแรงงาน
ทั้งนี้ มาเลเซียเป็นจุดเชื่อมโยงหลักในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ในการผลิตทุกอย่างตั้งแต่น้ำมันปาล์มไปจนถึงถุงมือทางการแพทย์ และชิปเซมิคอนดักเตอร์
อย่างไรก็ดี ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ บริษัทในมาเลเซียต้องเผชิญกับการสั่งห้ามการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ จากข้อกล่าวหาการปฏิบัติมิชอบต่อแรงงานข้ามชาติ ซึ่งถูกจ้างงานอย่างเป็นวงกว้างในอุตสาหกรรมการผลิต และการเพาะปลูกของมาเลเซีย
มาเลเซียประสบกับข้อกล่าวหาเรื่องการบังคับใช้แรงงาน ได้แก่ แรงงานขัดหนี้ หรือการบังคับใช้แรงงานแทนการชำระหนี้ การมีชั่วโมงการทำงานที่มากเกินไป การริบหนังสือเดินทางของแรงงานข้ามชาติเอาไว้ที่นายจ้าง และหอพักที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
ทั้งนี้ รัฐบาลมาเลเซียตั้งเป้าหมาย ที่จะขจัดแนวทางปฏิบัติมิชอบต่อการบังคับใช้แรงงานภายในปี 2573
ที่มา: