นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีในฐานประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่ารัฐบาลทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์กลั่นแกล้งไม่จัดงบประมาณให้ซ่อมแซมถนนในภาคใต้ ว่า ขออนุญาตใช้สิทธิที่นายชวนพาดพิงเรื่องการตัดงบประมาณ และขออธิบายด้วยความเคารพ จากการตรวจสอบตั้งแต่ปี 2535 -2557 เกือบ 22 ปี รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งชวน 1 ชวน 2 รวมถึงรัฐบาลอภิสิทธิ์ บริหารประเทศเกือบ 9 ปี คิดเป็นร้อยละ 40 

ขณะที่ รัฐบาลทักษิณ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ บริหารประเทศ 7 ปี คิดเป็นร้อยละ 33 ของช่วงเวลาทั้งหมด 22 ปี ซึ่งนับว่าบริหารน้อยกว่าเกือบ 2 ปี แต่มีผลงานที่ประชาชนได้รับโอกาสมากมาย เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค โอท็อป หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน กองทุนหมู่บ้าน มีคนได้ประโยชน์ทั่วทั้งประเทศ ราคายางพาราในยุคทักษิณ ยิ่งลักษณ์ สูงมาก จนผู้นำไม่เคยมีนโยบายโค่นต้นยางพาราไปปลูกจำปาดะ นโยบายค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำวันละ 300 บาท ประชาชนได้ประโยชน์ทั้งนั้น

ดังนั้น ถ้าปัญหาการซ่อมแซมถนนภาคใต้ไม่ได้รับการพัฒนา ควรโทษใคร ใครที่ทำให้เสียหาย ทำให้ประชาชนเสียโอกาส การจัดสรรงบประมาณในภาคใต้ช่วงรัฐบาลประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร ได้ตรวจสอบหรือไม่ 

ส่วนกรณีที่บอกว่ารัฐบาลทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ตัดงบซ่อมถนนไม่เป็นความจริงและทำไม่ได้ เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาจัดสรรงบประมาณเรื่องซ่อมแซมถนนแบ่งเป็นหลายหมวด เช่น เส้นทางไหนจำเป็นเร่งด่วน เส้นทางไหนที่เป็นเส้นทางหลัก ความต้องการใช้เร่งด่วน สภาพความเสียหายของพื้นผิวถนน บางส่วนอิงจากจำนวนประชากรในพื้นที่ ซึ่งมีนักวิชาการ มีเจ้าหน้าที่ มีเครื่องมือและองค์ความรู้ที่เป็นมืออาชีพพิจารณาอย่างเป็นระบบ 

ยิ่งในขณะที่ประเทศกำลังเดินหน้าเข้าสู่โหมดเตรียมการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยขอเชิญชวนทุกพรรคการเมืองให้ทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ มุ่งมั่นในการแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อชี้ให้ประชาชนเห็นว่า แนวทางของพรรคใดจะสามารถทำได้จริง และพาประเทศชาติประชาชนเดินไปข้างหน้าได้มากกว่า

"พรรคการเมืองไม่ควรโจมตีสาดโคลนกันไปมาเป็นแผ่นเสียงตกร่อง เพราะประชาชนจะรู้สึกเบื่อหน่าย ควรมาร่วมทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์" นายอนุสรณ์ กล่าว

'คลัง' กางข้อมูลโต้ ย้ำเศรษฐกิจไทยเติบโตต่อเนื่องในช่วง 4 ปี

ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวถึงกรณีมีการวิจารณ์ตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ทำให้มีจีดีพีต่ำสุดเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในภูมิภาค ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับต่อเนื่องตลอด 3 – 4 ปี จากร้อยละ 1.0 ในปี 2557 ขึ้นมาเป็นร้อยละ 3.0 3.3 และ 3.9 ในปี 2558 2559 และ 2560 ตามลำดับ และคาดว่า ในปี 2561 จะขยายตัวได้ร้อยละ 4.2 ต่อปี

โดยเป็นการขยายตัวในระดับเต็มศักยภาพ (Potential GDP Growth) มีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากการส่งออกและการท่องเที่ยว ขณะที่ การบริโภคและการลงทุนโดยรวมยังสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ดี ดังนั้น การขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.0 ต่อปี มาขยายตัวได้ที่ร้อยละ 3.9 ต่อปี ภายในระยะเวลา 3 ปี ถือเป็นอัตราการเพิ่มที่เร็วกว่าประเทศต่าง ๆ ข้างต้น

พร้อมกับยกจีดีพีของเพื่อนบ้านเปรียบเทียบ อาทิ เวียดนามจากร้อยละ 6.0 ในปี 2557 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 6.8 ต่อปี ในปี 2560 ลาวจากร้อยละ 7.6 ในปี 2557 ลดลงเป็นร้อยละ 6.8 ต่อปี ในปี 2560 กัมพูชาจากร้อยละ 7.1 ในปี 2557 ลดลงเป็นร้อยละ 7.0 ต่อปี ในปี 2560 และมาเลเซียจากร้อยละ 6.0 ในปี 2557 ลดลงเป็นร้อยละ 5.9 ต่อปี ในปี 2560

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง :

'พิชัย' เตือนนายกฯ ฟังธนาคารโลก-เอดีบี ย้ำไทยโต 'ต่ำสุด' ในภูมิภาค

'อภิสิทธิ์' ซัด รัฐบาล คสช. 4 ปี ปฏิรูปเหลว

ภาพ:TV24