ไม่พบผลการค้นหา
ประชาธิปไตยแบบผู้แทนราษฎร มันก็มาจากประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมล่ะครับ

สุดท้ายนี้

ผมจะกลับมาพูดคุยกับท่านในเรื่องของประชาธิปไตย ในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรี ในฐานะเป็นคนไทยคนหนึ่งเช่นกัน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกันในเรื่องเหล่านี้ ที่ผมพูดต่อไปนี้เป็นข้อมูล ผมได้มาจากการอ่านหนังสือ "เศรษฐกิจดิจิทัล" เขียนโดย ดอน แท็ปสก็อต ซึ่งเป็นนักเขียนที่ได้รับความนิยม เจ้าของหนังสือ "วิกิโนมิกส์" และ "โกรวน์ อัพ ดิจิทัล" หนังสือเล่มนี้ แปลและเรียบเรียง โดย พรศักดิ์ อุรัจฉัทชัยรัตน์ ซึ่งก็กล่าวไว้อย่างน่าสนใจ จะผิดจะถูกไปคิดกัน ไปอ่านกัน ว่าหากเรามองไปรอบ ๆ ตัวแล้ว หลายประเทศในโลกก็ประสบปัญหาทางการเมืองคล้าย ๆ กัน อาจสังเกตได้ว่าปัญหาทางการเมืองใหญ่โตมากขึ้น ตามจำนวนประชากร แล้วก็เท่าที่เขาติดตามวิเคราะห์มาก็แนวโน้มในการที่ประชาชนจะเลือก จะงดออกเสียง ยังไม่นับกลุ่มคนที่ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อนักการเมือง พรรคการเมืองอะไรก็แล้วแต่ที่ผ่านมา อันนี้ผมพูดถึงนอกประเทศ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา คนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งน้อยลง อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี หรือแม้แต่สหรัฐอเมริกาเอง ผมยกตัวอย่างต่างประเทศให้ฟัง ที่เคยมีผู้ออกไปใช้สิทธิ์ เกือบร้อยละ 90 ในปี1992 ลดลงมาเหลือ ประมาณ 66% ในปี 2012 ก็อาจกล่าวได้ว่า "ประชาธิปไตยในรูปแบบของสภาผู้แทน" นั้น อาจหมดสมัยไปแล้ว กลายเป็นยุค "ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม" นี่เขาเขียนมา เป็นคนต่างประเทศ แล้วเป็นประเทศใหญ่ ๆ ทั้งสิ้น เขาก็เขียนมา เราก็เอามาคิดดูซิว่า ควรจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต วันนี้เราก็จะแก้ไขอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น แต่เป็นการคิดเพื่ออนาคต 

ความข้างต้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ของเราชาวไทยทั้งประเทศ พูดไว้ใน รายการศาสตร์พระราชา ฯ คืนศุกร์ 22 ธ.ค.2560 

เพราะพลเอกประยุทธ์ พูดยาวมาก พูดหลายเรื่อง ใช้เวลาในการพูดที่นานมาก จึงเป็นการพูดที่ไม่มีจุดเด่น  เบลอไปหมด ประชาชนผู้ปากกัดตีนถีบ ไม่ฟังหรอกครับ แม้จะถ่ายทอดสดทุกช่อง ทีวี ก็มีคนฟังน้อยมาก ผม นายฉลามเขียว ก็ไม่ฟังครับ

แต่ผมอ่าน อ่านตัวอักษรที่ เว็บไซต์รัฐบาลไทย ท่านพิมพ์แล้วเผยแพร่ เป็นประโยชน์แก่ตัวผมมากในฐานะนักข่าว

หมดยุคสภาผู้แทนราษฎร คำนี้ใหญ่นะครับ มันหมายความว่า ไม่ต้องให้ประชาชนได้เลือกตั้งบุคคลเข้ามาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกต่อไป หรือไม่ต้องมี ส.ส.อีกแล้ว

ผมอ่านถึงตรงนี้ ผมชื่นชมนะครับ พลเอกประยุทธ์เดินเกมรุกที่รุนแรงมากอีกแล้ว ซึ่งการทำรัฐประหารของท่านเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 ก็แรงอยู่แล้ว  ก็คือการฆ่าอำนาจรัฐ ที่ประชาชนมอบให้นักการเมืองผ่านกระบวนการเลือกตั้งทั่วไป 

แต่ในระยะเวลา 3 ปี ประชาชนไทยผู้โหยหารัฐประหารก็รู้แล้วว่า อำนาจเผด็จการทหารแก้ปัญหาทุกอย่างไม่ได้ ปัญหาคอรัปชั่น เป็นเหตุอันดับ 1 แก้ได้มั๊ย 

นาฬิกาหรูของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พลิกสถานการณ์

อย่ากล่าวหาว่าพลเอกประวิตรทุจริตโกงบ้านกินเมืองนะครับ ขณะนี้ท่านแค่ยังไม่ได้ชี้แจงปปช. ได้นาฬิกาหรูเหล่านั้นมาอย่างไร

หนังสือ  The Digital Economy ของ Don Tapscott ที่พลเอกประยุทธ์อ้างถึง ผมไปค้นใน Google เห็นหน้าตาคนเขียน เห็นหน้าตาปกหนังสือแล้ว ผมก็ได้นำเรื่องราวไปถามไถ่ผู้รู้คนอื่นๆในแวดวงของผม มีคำถามกลับมาตรงกันว่า พลเอกประยุทธ์อ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยตัวเองจริงๆ รึ

ผมก็ตอบไปด้วยความมั่นใจว่า ท่านอ่านเองแน่นอน ไม่ใช่ฟังคนอื่นเขาเล่ามา เพราะพลเอกประยุทธ์เป็นคนชอบอ่านหนังสือ 

แต่ผมก็จนปัญญานะครับ เพราะเป็นคนไม่รู้ภาษาอังกฤษ จึงไม่รู้ว่า ดอน แท็ปสก็อต เขียนไว้ว่าอย่างไรในประเด็น อาจจะหมดยุคผู้แทนราษฎร ก้าวเข้าสู่ยุคประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม

ผมก็ค้นต่อไป ประชาธิปไตยแบบผู้แทนราษฎร มันก็มาจากประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมล่ะครับ สังคมเล็กๆ คนทุกคนในสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อการปกครองหรือการบริหารชุมชนนั้นได้ แต่เพราะคนมันมีมากขึ้นเรื่อย การจะให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองก็ทำไม่ได้ จึงย่อยลงไป ให้ไปใช้สิทธิ์ออกเสียงเลือกคนเป็นตัวแทนของตัวเอง ไปทำงานในสภา แล้วมนุษย์จะกลับไปใช้ระบบประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมอีกหรือ ผมก็งงอยู่

แต่ความเป็นนักข่าวของผมก็จับปฏิกิริยาได้นะครับ ขณะนี้เห็นมีแต่ นักการเมืองอาชีพ ที่โหวกโวย ให้มีการเลือกตั้งได้แล้ว โดยเฉพาะ “พวกเป่านกหวีด” อันเป็นต้นทางให้เกิดการรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 ปากจัดหนัก เป็นคนพวกที่ใช้วาจาเถือคณะผู้ครองอำนาจรัฐในปัจจุบันหนักหน่วง ขณะที่พวกตรงข้ามไม่กล้าใช้คำพูดเถือแรงๆ เพราะเห็นตัวอย่างของ “หมวดเจี๊ยบ” โดนไม่รู้กี่คดีแล้วในตอนนี้ 

ยังไม่มีใครได้เปรียบเต็มร้อย

ยังไม่มีใครเสียเปรียบเต็มที่

ฝ่ายนักการเมืองอาชีพที่โวยวายขอเลือกตั้ง ก็เป็นผู้เดียวดายอยู่  เพราะชาวบ้านจริงๆยังไม่ได้โวยวายด้วย ในโซเชียลก็เล่นกันแต่เรื่องไร้สาระ ในขณะที่ฝ่ายผู้ครองอำนาจรัฐที่ขึงพืดการเลือกตั้ง ท่องอยู่แต่คัมภีร์โรคแมปไม่เคลื่อน ล่าสุดก็ขึ้นขี่ด้วยวาจา พรรคใดล่าลายเซ็นชาวบ้านมาจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองโปรดยกมือขึ้นสูงๆ  ขยี้ขยำให้พรรคการเมืองเก่าเร่งให้คนยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคภายใน 30 วัน แต่ก็ไม่ได้เปรียบ เพราะปากท้องชาวบ้านมันเป็นของจริง ข่าวแถลงแล้วแถลงอีกภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ชาวบ้านก็ถามดีขึ้นตรงไหน รวยกระจุกจนกระจายอยู่เหมือนเดิม

มิหนำ ตอนนี้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ที่น่าตื่นตะลึง เรียกร้อง 

ให้ “ตูน บอดี้สแลม” เป็นนายกรัฐมนตรี

ผมพิจารณาแล้วขอกราบเรียนท่านพลเอกประยุทธ์ ว่า คนไทยยังจับประเด็นไม่ได้ครับ เพราะท่านพูดยาวเกินไป มันเบลอ

พูดประเด็นนี้อีก เน้นๆ ประเด็นเดียว พูดสั้นๆนะครับ ถามโช้ะไปเลย

ไม่ต้องมีสภาผู้แทนราษฎรอีกแล้วเอามั๊ย

ฉลามเขียว

25 ธันวาคม 2560


ฉลามเขียว
0Article
0Video
0Blog