ไม่พบผลการค้นหา
พรรคเพื่อธรรม จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีที่เชียงใหม่ 'สมพงษ์ อมรวิวัฒน์' นั่งหัวหน้าพรรค ยืนยันไม่ใช่นอมินีเพื่อไทย แต่พร้อมเปิดประตูรับคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ลั่นเชียงใหม่ต้องได้ที่นั่งส.ส. ประเดิมเปิดสาขาพรรคที่เชียงใหม่เป็นแห่งแรก

พรรคเพื่อธรรมได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2561 โดยเปิดให้สมาชิก ซึ่งมีทั้งจากภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางบางส่วน มาลงทะเบียนในช่วงสายและจัดเตรียมที่นั่งไว้จำนวน 500 ที่นั่ง โดยมี พ.ต.ท.ปกรณ์กฤษณ์ ใหญ่โต พนักงานการเลือกตั้ง (ชำนาญการ) ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมสังเกตการณ์ประชุมดังกล่าวด้วย

จากนั้น พรรคเพื่อธรรมได้จัดประชุมสมาชิกและเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยปิดห้องไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปสังเกตการณ์ โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงจึงเปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพและสัมภาษณ์ โดย

  • นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยและอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ในสมัยรัฐบาลนายสมชาย เป็นหัวหน้าพรรค
  • ดร.นลินี ทวีสิน รองหัวหน้าพรรค
  • นายพงศกร อรรณนพพร เลขาธิการพรรค
  • นายไพบูลย์ โตวิริยะเวช รองเลขาธิการพรรค
  • นายธวัชชัย ไทยธรรมอารีย์เหรัญญิก
  • ว่าที่ร.ต.หญิงจุฑามาศ ทิดดี นายทะเบียนพรรค
  • ดร.เอราวัณ ทับพลี โฆษกพรรค
  • พล.ต.อ.จรัญ ธิตะปัญญา และพ.ต.อ.มานัส ศัตรูลี้ เป็นที่ปรึกษาพรรค


นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อธรรม กล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นไปตามข้อกำหนดและมติของที่ประชุม โดยอนาคตข้างหน้าจะเพิ่มได้อีกไม่เกิน 15 ท่าน ทั้งนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้เมื่อมีการประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อได้กรรมการบริหารครบ 15 คน ซึ่งการเมืองก็มีการพลิกผัน ตำแหน่งก็อาจจะมีการสับเปลี่ยนกัน ซึ่งพรรคเพื่อธรรมมีความมุ่งมั่น ตั้งใจพอสมควรในการสรรหาบุคลากรมาร่วมทีมกับพรรค ซึ่งความพร้อมของพรรคมีมานาน โดยเฉพาะในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น

อย่างไรก็ตาม เพื่อนฝูงที่มีอุดมการณ์เดียวกัน และเชื่อว่าทุกคนจะมีความพร้อม ส่วนที่จะมีคนมองว่าเป็นนอมินีเพื่อไทยนั้น การที่มาประชุมที่จังหวัดเชียงใหม่เพราะสมาชิกพรรคเพื่อธรรมมีถึง 800 กว่าคนซึ่งมากที่สุดในประเทศและเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกด้วย โดยสมาชิกพรรคก็เปิดรับไปเรื่อยๆ และมีกระจายทั้งภาคอีสาน และภาคใต้ แต่ที่เลือกที่เชียงใหม่ เพราะสมาชิกมาจากแม่ริม แม่แตง สันกำแพงและสารภี”

ส่วนที่ตนรับเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อธรรมแล้วลูกชายอยู่พรรคเพื่อไทย ก็ถือว่าต่างคน ต่างทำงาน เพราะลูกชายก็โตแล้ว และการที่ตนกลับมาทำงานการเมือง เพราะคุยกันมานาน 3-4 ปีก่อนแล้ว ยิ่งพอรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ออกมาเห็นว่าการกำหนดการเลือกตั้งที่ออกมามันผิดแปลกไป และตนและพ.ต.อ.จรัญ ซึ่งรักใคร่กันมานาน และตนก็ทำงานการเมืองมากว่า 30 ปีจึงอาสามาทำงานอีกครั้ง

การเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคเพื่อธรรมจะพยายามส่งผู้สมัครลงให้ครบเกือบ 350 เขต ซึ่งก็จะมีอดีตส.ส.ด้วย แต่ยืนยันจะไม่มีการดูดจากพรรคอื่นมา เพื่อไทยก็ทำงานของเพื่อไทยไป ส่วนเพื่อธรรมก็จะทำตามคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ต่างคนต่างทำ ส่วนแนวทางการเมืองจะคล้ายคลึงกันหรือไม่ขอให้ดูต่อไป เราไม่เอาเผด็จการ แต่ยึดมั่นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข

หัวหน้าพรรคเพื่อธรรม ยังกล่าวอีกว่า พรรคเพื่อธรรมจะไม่เป็นพรรคสำรองของใคร แต่จะรับหากใครจะย้ายมาอยู่ด้วย นโยบายของพรรคก็จะให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมกับพรรคด้วย ส่วนกรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นั้น ขอยืนยันว่านายสมชายยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยและวันนี้ที่มีการประชุมก็ยังไม่ได้เห็นหรือเจอกัน และนายสมชายไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพรรคเพื่อธรรมเลย อีกทั้งนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยานายสมชายก็วางมือ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว

เชียงใหม่จะเป็นสาขาพรรคเพื่อธรรม สาขาแรก ต่อไปที่ภาคกลาง ภาคอีสานและภาคใต้ ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อธรรมจะไม่ยิ่งหย่อนกว่าพรรคใดแน่ๆ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่มั่นใจว่าจะได้ที่นั่งส.ส.อย่างแน่นอน ส่วนที่มีการพูดว่าพรรคเราสำรอง หากจะมีการยุบพรรคเพื่อไทย ซึ่งหากเป็นจริงก็น่าสงสาร ถ้าลงสมัครแล้ว ได้เบอร์แล้ว มีคำพิพากษายุบพรรคออกมา 350 คนที่สมัครก็เคว้ง ก็คงต้องถามคนที่จะลงเพื่อไทยจะย้ายมาไหม แต่เพื่อไทยและเพื่อธรรมเป็นพันธมิตรกันได้ ทางพรรคเพื่อธรรมยืนยันไม่เอาเผด็จการอย่างแน่นอน 

ทั้งนี้ หากใครมีอุดมการณ์ตรงกัน เพื่อประชาชน เพื่อประชาธิปไตยเราจะรับเข้าสู่พรรคหมด มาจากพรรคไหนไม่ว่า ตอนนี้หัวหน้าพรรคเป็นคนภาคเหนือ เลขาธิการพรรคเป็นคนอีสาน รองหัวหน้าพรรคมาจากภาคกลาง โฆษกพรรคมาจากภาคกลางไปทางตะวันออก ซึ่งก็ถือว่าสมบูรณ์แบบ พรรคเราจัดตั้งตามกระบวนการที่ถูกต้อง