มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชัน หนึ่งในบริษัทการค้ารายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น จับมือกับ เทมาเส็ก โฮลดิงส์ บริษัทเพื่อการลงทุนของสิงคโปร์ ร่วมพัฒนาแผนการสร้างเมืองอัจฉริยะ (สมาร์ตซิตี) บนพื้นที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 25 ไร่ ในย่าน 'บีเอสดี ซิตี' (Bumi Serpong Damai) ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงอย่างจาการ์ตาไปประมาณ 25 กิโลเมตร
โปรเจกต์ดังกล่าวนับเป็นโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะเต็มรูปแบบโครงการแรกของมิตซูบิชิ โดยก่อนหน้านี้ บริษัทเคยเข้าร่วมกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างโนมูระรวมถึงวินกรุ๊ป เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการคอนโดหรูและที่อยู่อาศัยในประเทศเวียดนามมาก่อน
สมาร์ตซิตีของอินโดนีเซียครั้งนี้ ตั้งเป้าจะรองรับผู้อยู่อาศัยจริงราว 4-6 หมื่นราย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการพัฒนาโครงการทั้งสิ้น 20 ปี และคิดเป็นเม็ดเงินลงทุนราว 2 แสนล้านเยน หรือประมาณ 6 หมื่นล้านบาท โยมิตซูบิชิจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายประมาณ 30% ทั้งยังมีบริษัทผู้พัฒนาอย่าง ซินาร์ มาส แลนด์ (Sinar Mas Land) เข้าร่วมโปรเจกต์ด้วย
โครงการที่อยู่อาศัยอัจฉริยะดังกล่าวจะประกอบไปด้วยสถานีชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ทั้งยังมีบริการรับส่งในลูกบ้านที่อาศัยอยู่ในโครงการ นอกจากนี้ ข้อมูลความเห็นของผู้ใช้งานจะถูกส่งกลับมาประมวลผลเพื่อพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกรรมทางการเงินหรือแม้แต่การจองคิวนัดพบแพทย์สามารถทำได้ผ่านสมาร์ทโฟนทั้งสิ้น
เค็นโกะ คูมะ สถาปนิกชาวญี่ปุ่นชี้ว่า วิกฤตโรคระบาดในปัจจุบันทำให้หลายภาคส่วนหันกลับมามองและเห็นปัญหากับรูปแบบการอยู่อาศัยในปัจจุบันที่ไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป
คูมะ ย้ำว่า รูปแบบการใช้ชีวิตบนตึกสูงที่เบียดเสียดและแออัดตอบโจทย์แค่ในช่วงแรกของบุคอุตสาหกรรมทุนนิยม ซึ่งกลายเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้วในปัจจุบัน การปรับวิธีคิดถึงการออกแบบที่อยู่อาศัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ขณะที่อีกหนึ่งประเทศเพื่อนบ้านของไทยอย่างเวียดนาม มีแผนพัฒนาสมาร์ทซิตีถึง 26 แห่ง ภายใต้โครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของประเทศระหว่างปี 2561-2568 โดยปัจจุบันเริ่มมีการดำเนินการใน 3 เมืองหลักของประเทศอย่าง ฮานอย นครโฮจิมินห์ และดานังแล้ว ซึ่งส่งผลอย่างเป็นรูปแบบแก่ประชาชนในพื้นที่
กระบวนการติดต่อราชการมากกว่า 1,500 เรื่อง สามารถดำเนินการได้ผ่านช่องทางออนไลน์สำหรับเมืองฮานอย ขณะเดียวกัน ท้องถิ่นยังจัดการเรื่องระบบจัดการสุขภาพของผู้อยู่อาศัยครอบคลุมเกือบ 1 ล้านคน ขณะที่ฝั่งนครโฮจิมินห์กำลังอยู่ระหว่างการสร้างเมือง เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางทางการเงิน
อ้างอิง; Nikkei Asian Review, The Asean Post, Vietnamplus