ไม่พบผลการค้นหา
ร้อยเอก ดร. จารุพล เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อชาติ ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อพบปะพี่น้องประชาชน พร้อมประกาศจุดยืน “ทวงคืนศักดิ์ศรีคนอีสาน”

วันที่ 3 มี.ค. 66 ร้อยเอก ดร. จารุพล เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อชาติ เปิดเผยถึงการลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อพบปะพี่น้องประชาชนและการเข้าพูดคุยกับกลุ่มศิลปินหมอลำผู้อนุรักษ์วัฒนธรรมอีสาน บ้านเปลือยใหญ่ ต.รอบเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด โดย ร้อยเอก ดร.จารุพล เรืองสุวรรณ ได้เปิดเผยว่า 

“ที่นี่คือบ้านของต้นตระกูลเรืองสุวรรณครับ ท้าวทนต์ผู้ต่อตั้งเมืองร้อยเอ็ดท่านมีศักดิ์เป็นเทียดแท้ๆของผม ในฐานะลูกหลาน วันนี้ตั้งใจมาที่นี่เพื่อกราบบรรพบุรุษ และประกาศจุดยืนต่อภาคอีสาน คนอีสานเราถูกดูถูกดูแคลนมาโดยตลอด มีวาทกรรมมากมายที่ปล่อยออกมาเพื่อรังแกคนอีสานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นความฝันและแรงขับให้ผมทำงานการเมือง คนอีสานไม่ได้จน มันเป็นวัฒนธรรมของเราที่เวลาใครถาม เราก็บอกแค่ว่า พออยู่พอกิน ไม่มีคนอีสานคนไหนลุกมาบอกว่ารวย เรารักการถ่อมตน และคนอีสานไม่ได้โง่ เราอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของชาติในทุกๆมิติด้วยซ้ำ สิ่งที่ต้องทำ คือสร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ กำจัดวาทกรรม ทำคนให้เท่ากัน ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อชาติจะทำให้คนอีสานทั้ง 22 ล้านคน ” 

นอกจากนี้ร้อยเอก ดร.จารุพล เรืองสุวรรณ ยังได้กล่าวถึงการพูดคุยกับกลุ่มศิลปินหมอลำผู้อนุรักษ์วัฒนธรรมอีสาน

“วันนี้ได้มีโอกาสพบกับแม่ๆศิลปินหมอลำ ทุกท่านเป็นระดับครูบาอาจารย์ ต้องยกท่านเป็นปูชณียบุคคล เป็นสมบัติอันล้ำค่าของคนอีสาน ศิลปะวัฒนธรรมอีสานเป็นของเก่าแก่ที่ต้องอนุรักษ์ไว้ ทุกวันนี้ฝรั่งมังค่ามาเมืองไทยไม่ได้อยากมาดูตึกในกรุงเทพหรือแสงสีเพียงอย่างเดียว ของแบบนั้นบ้านเขาก็มี แต่เขาอยากเห็นวัฒนธรรมที่เขาไม่เคยเห็น ได้กินสิ่งที่ไม่เคยกิน ท่านจารุบุตร เรืองสุวรรณ คุณลุงของผมท่านเคยบอกไว้ว่า วัฒนธรรมเป็นสมบัติของผู้เจริญแล้ว ไม่เกี่ยวว่ารวยจน วัฒนธรรมที่สวยงามของเราเป็นตัวชี้ว่าคนไทยเราเป็นผู้เจริญแล้ว ซึ่งเราจะรักษาและผลักดันให้วัฒนธรรมอีสาน และวัฒนธรรมของทุกภาค ให้กลับมาเฟื่องฟูและชัดเจนเป็นออริจินอลอีกครั้ง โดยผสมผสานกับแนวทางการตลาดยุคใหม่ให้ออกสู่สายตาชาวโลก ซึ่งเป็นไปตามแนวทางนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของพรรคเพื่อชาติครับ” 

“แผ่นดินอีสานจะรุ่งเรือง และคนอีสานจะเป็นผู้สร้างชาติ”​ ร้อยเอก ดร. จารุพล เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อชาติ กล่าวปิดท้าย