รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมจ่ายเงินชดเชยให้แก่เกษตรกรชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยเกษตรกรจะได้รับเงินชดเชยตั้งแต่ 15 - 150 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเอเคอร์ตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งงบประมาณในมาตรการชดเชยให้แก่เกษตรกรของสหรัฐฯ นี้ตั้งงบไว้ทั้งสิ้น 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
โครงการช่วยเหลือเกษตรกรของรัฐบาลสหรัฐฯ จะเริ่มดำเนินการจ่ายเงินในช่วงกลางเดือนถึงปลานเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งเมื่อปีที่ 2018 รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้งบประมาณ 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการแก้ปัญหาและอุดหนุนราคาสินค้าเกษตรให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และช่วยเหลือสินค้าเกษตรที่ไม่สามารถขายได้
ขณะที่ทางพรรคเดโมแครตออกมาวิจารณ์นโยบายดังกล่าวของรัฐบาลสหรัฐฯว่า "เกษตรกรต้องการการค้าที่เป็นธรรมมากกว่านโยบายประชานิยมแจกเงิน และยังกล่าวว่า เกษตรกรไม่สมควรเป็นผู้รับชะตากรรมจากสงครามการค้านี้"
กลุ่มเกษตรกรสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นหนึ่งในฐานคะแนนเสียงที่สำคัญของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนทำให้เกษตรกรต้องประสบกับภาวะการส่งออกสินค้าเกษตรที่ยากลำบากขึ้น ในปี 2018 การส่งออกถั่วเหลืองของสหรัฐฯ มียอดต่ำสุดในรอบ 16 ปี และจีนเป็นประเทศที่สั่งซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯมากที่สุดประเทศหนึ่ง
ทั้งนี้การจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรนั้นจะขึ้นอยู่กับที่ตั้งของฟาร์มเกษตรในรัฐต่างๆ ซึ่งจะได้รับค่าชดเชยที่แตกต่างกัน และข้อมูลการค้าในรอบ 10 ปีที่ได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษีจากประเทศต่างๆรวมไปถึงจีนและอินเดียด้วย
ขณะที่สินค้าเกษตรที่จะได้รับเงินชดเชยตามโครงการนั้นมี 29 รายการ รวมไปถึงถั่วเหลือง ข้าวโพด ข้าวสาลี ข้างฝ่าง และฝ้าย นอกจากนี้ยังรวมไปถึงฟาร์มโคนมและฟาร์มหมูอีกด้วย ขณะที่เกษตรกรผู้ปลูกอัลมอนต์ ถั่วพิสตาชิโอ วอลนัต แครนเบอร์รี่ และเชอร์รี่ก็จะได้รับเงินชดเชยตามโครงการเช่นกัน
เวทีเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนนั้นจะจัดขึ้นอีกครั้งในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ประสบความล้มเหลวในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา การเจรจาดังกล่าวเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและสหรัฐฯ จะหารือกันเพื่อเจรจาผ่อนปรนการตั้งกำแพงภาษีและสงครามการค้าที่ตึงเครียดมานานกว่า 2 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง