นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ หรือ เกรซ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 แถลงความพร้อมสำหรับการทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมประกวดเวทีระดับโลก "มิสเวิลด์ 2019" ที่ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยเปิดตัว ด้วยโชว์ “โขนประยุกต์” การแสดงที่มีความศึกคักผสมกับความอ่อนช้อยของวัฒนธรรมไทย ซึ่งจะนำไปใช้สำหรับรอบคัดเลือก Dance of the Word ซึ่งหากออดิชั่นผ่าน จะได้เป็นผู้นำเต้นเปิดรอบตัดสินมิสเวิลด์ 2019 ที่ได้ วิทยาลัยดนตรีและศิลปะการแสดง SCA (SUPERSTAR COLLEGE OF ARTS) รับหน้าที่ออกแบบท่ารำประกอบเพลง ส่วนชุดโขนประยุกต์ ตัดเย็บโดยคุณรัศรินทร์ บุรทัตเธียรพงษ์ ห้องเสื้อ Ananya
จากนั้นได้เปิดตัวชุดประจำชาติ เป็น ชุดไทยประยุกต์ ออกแบบและตัดเย็บโดย คุณธิติ ชนะชัย ห้องเสื้อ Thee-Si Couture ที่ได้แรงบันดาลใจจากการแต่งกายของสตรีช่วงปี ค.ศ 1910 หรือ ยุด Edwardian ซึ่งตรงกับช่วงรัชสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรป และเมื่อเสด็จกลับพระองค์ได้นำ ศิลปะแบบตะวันตกมาประยุกต์ใช้ในสยามประเทศ เป็นยุคที่อารยธรรมนานาประเทศนั้นแพร่หลายเป็นอย่างมากในประเทศยาม เสื้อผ้าจะมีความสวยงาม ความละเอียดละออ อีกทั้งยังมีการนำผ้าลูกไม้มาใช้ รวมไปถึงผ้าต่างๆ อีกมากมาย ในครั้งนี้ผ้าที่นำมาตัดเย็บคือผ้าไหมสีแดงจากศูนย์ศิลปาชีพ มาตัดเย็บร่วมกับผ้าลูกไม้เพิ่มความหรูหราด้วยการปักเพื่อเกิดความโดดเด่นเมื่อสวมใส่
ส่วนชุดราตรี ออกแบบและตัดเย็บโดย คุณวุฒิชัย แก้วหล้า ห้องเสื้ออันตุนิยะ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการผสมผสานความเป็นไทยสู่สากลอย่างลงตัวเรียงร้อยผ่านศาสตร์และศิลป์ด้วยงานปักแบบงานโขน ซึ่งจะสื่อถึงวรรณกรรมของไทย ด้วยเทคนิคการปักแบบราชสำนักโบราณที่ยังคงตราตรีงในประวัติศาสตร์ไทย ให้ออกมาสวยงามทันสมัยแบบสากลกับโครงชุดหลักแบบเกาะอกทรงสอบ ปักลวดลายแบบไทยประยุกต์ โดยตัวชุดจะเป็นพื้นผ้าไหมแบบบาง แล้วเสริมด้วยเพชรและอัญมณี ต่างๆ
ขณะที่หัวใจหลักของการประกวดมิสเวิลด์ กับ โครงการจิตอาสา ปีนี้กองประกวดฯ ได้รับเกียรติจาก กรมสุขภาพจิต ที่เล็งเห็นโครงการของมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 ที่ทำอยู่ รวมถึงการสานต่อกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมร่วมกัน ในภาวะที่สังคมเปราะบาง มีความเครียด มีข่าวเรื่องการฆ่าตัวตายของผู้วยโรคซึมเศร้าอย่างต่อเนื่อง จึงมอบตำแหน่ง "แบรนด์แอมบาสเดอร์ กรมสุขภาพจิต” ร่วมกับทำโครงการ "Let me hear you หัวใจมีหู" ให้มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 ทำหน้าที่คอยช่วยเหลือ และให้คำปรึกษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้าให้กลับมาแข็งแรงขึ้นอีกครั้ง
ทั้งนี้ การประกวด มิสเวิลด์ 2019 จะมีรางวัลพิเศษ ที่เข้ารอบแบบอัตโนมัติ 6 รางวัล
1. Miss World Beauty with a Purpose
2. Miss World Top Model
3. Miss World Multimedia Award
4. Miss World Top Sports
5. Miss World Talent
6. Miss World Head to Head Challenge
ซึ่งที่ผ่านมา เกรซ นรินทร ได้พัฒนาตัวเองในทุกๆด้าน พร้อมยืนยันความพร้อมสำหรับการประกวด ว่าเธอมีความ 100 เปอร์เซ็นต์ ในการทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยแล้ว
“ความพร้อมก็ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนะคะ เพราะที่ผ่านมา เกรซ ก็มุ่งมั่นทำทุกอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็น โครงการจิตอาสา ที่ เกรซ มองว่า มันเป็นจุดแข็งที่จะทำให้เราพิชิตมงฟ้าได้ และมีการพัฒนาตนเอง พัฒนาบุคลิกภาพ ด้านการเดินแบบ ด้านการพูด เสริมความงาม ซึ่งหวังว่าทุกคนจะเห็นว่า เกรซ หน้าเล็กลงนิดหนึ่ง(หัวเราะ) นอกจากนี้ยังมีการเรียนร้องเพลง เพื่อนำไปใช้ในรอบความสามารถพิเศษ ในการประกวดมิสเวิลด์ ก็พยายามทำทุกวันให้คุ้มค่ามากที่สุด เราเหลือเวลาอีกแค่นิดเดียว ที่ผ่านมามีการแสดงความคิดเห็นในแง่ลบ กับเกรช มากมาย แต่เรานำความคิดเห็นเหล่านั้นมาพัฒนาตัวเอง เพราะว่าถ้าเรามองจากตัวเราเอง คงมองไม่เห็นทั้งหมด ต้องการขอกำลังใจจากแฟนๆและคำแนะนำจากทุกคน
ในส่วนรูปร่างก็มีโดนตำหนิ เรื่องหัวไหล่ เกรชเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ ไหล่เราค่อนข้างใหญ่ ตอนนี้ก็ออกกำลังกาย ให้รูปร่างกระชับมากขึ้น จริงๆ ไม่ใช่แค่รูปร่างที่สวย แต่มุ่งไปที่สุขภาพด้วย เพราะช่วงไปประกวดที่ลอนดอน เป็นช่วงหน้าหนาว เราต้องฟิตร่างกายให้พร้อม ซึ่งตอนนี้เราพร้อมทั้งกายและใจ แต่สิ่งที่ต้องการมากที่สุด คือ กำลังใจจากทุกคน”
นอกจากนี้ เกรซ ยังได้เปิดเผยถึง กระแสแง่ลบที่เธอได้รับผ่านโซเชียลว่าที่ผ่านมา เธอได้อ่านทุกความคิดเห็น ยอมรับว่ามีเสียใจบ้าง แต่เธอก็ได้นำความคิดเห็น มาปรับปรุงและพัฒนาตนเอง
“ทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง เกรซ พยายามทำทุกอย่างออกมาให้ทุกๆคนพอใจ แต่ก็ไม่สามารถทำให้ทุกคนยอมรับ หรือชอบที่เราเป็นได้ทั้งหมด สิ่งที่เกรซ พยายามสื่อออกมาผ่านโครงการ ของตัวเอง คือ เราทุกคนต้องยอมรับ เข้าใจกันมากที่สุด เกรซ ใส่ใจกับทุกความคิดเห็นที่เข้ามาในโซเชียล ซึ่งเกรซก็นำไปปรับปรุง ถามว่าเวลาเจอความคิดเห็นลบๆ เช่น เกรซ ไม่สวย ถามว่าเสียใจไหม เสียใจนะคะ แต่สิ่งที่ทำให้เกรซ สู้ขึ้นมา คือ เราได้รับหน้าที่ตรงนี้แล้ว เราก็อยากทำให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด จากการที่เกรซหายๆ ไป เกรซพยายามไปพัฒนาตัวเองทุกอย่างจริงๆ ทุกคนมีอิสระในการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกัน เรารับรู้ในความคิดเห้นทุกคน เราไม่อาจไปห้ามความคิดใครได้ ถ้าความเห็นไหนที่เราสามารถนำมาพัฒนาตัวเองได้ เราก็จะเอามาพัฒนาตัวเอง มันเป็นเวทีแรกของเกรซ เกรซไม่เคยประกวดนางงามมาก่อน มันเป็นอีกก้าวใหม่ของชีวิตเกรซ”
ส่วนไม้เด็ดที่เกรซตั้งใจนำไปประชันกับสาวงามนานาประเทศ คือ ความเป็นไทย ทั้งการไหว้ รอยยิ้ม มนุษยสัมพันธ์ที่ดีทุกอย่าง เพราะเธอมองว่าการประกวดมิสเวิลด์ ไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่เวทีนี้ยังต้องการหานางงามที่สามารถเข้าถึงได้ พูดคุยกับทุกคนได้ง่าย จับต้องได้ง่าย เกรซจึงคิดว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่คนไทยมีอยู่แล้ว ก็จะนำสิ่งนี้ไปสู้กับเพื่อนๆ อีกหลายประเทศ เพราะทุกคนก็มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน
และแน่นอนว่าเธอยังได้รับการติวเข้มจากนางงามรุ่นพี่ นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ รองอันดับ 1 มิสเวิลด์ 2018 และ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 ได้ติวเข้ม ตั้งแต่เริ่มต้น การเก็บของแบบไหน จะต้องเจอเหตุการณ์อะไรบ้าง รวมทั้ง ฝึกภาษาอังกฤษ ฝึกการเข้าห้องดำ ฝึกการพูด ซึ่งเธอบอกว่า นิโคลีน จะหาคำถามมาให้ และเธอก็ดูการประกวดเก่าๆ ซึ่งช่วยเธอได้เยอะมาก อีกทั้งนิโคลีนยังแนะนำการครองพื้นที่สื่อ หากเขายื่นไมค์มา จะต้องพูดให้กระชับ สรุปได้ใจความ จะเป็นสิ่งที่ดีที่เขาอยากสัมภาษณ์เราอีก
เกรซกล่าวทิ้งท้ายว่า เราไม่อยากกดดันตัวเอง แต่เราพยายามทำทุกวันให้ออกมาดีที่สุด เพื่อไม่เสียใจภายหลัง จะพยายามให้ทุกคนภูมิใจกับการเป็นตัวแทนประเทศไทยให้ดีที่สุด
ซึ่งรอบตัดสินมิสเวิลด์ 2019 จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2562 ที่ Excel Arena L.ondon ประเทศอังกฤษ ผู้ชมในประเทศไทยสามารถร่วมติดตาม ชม แชร์ และให้กำลังใจตัวแทนประเทศไทย ได้ทางแฟนเพจ เฟสบุ๊ค Miss World - Thailand ทางอินสตาแกรม MISSTHAILANDWORLD _OFFICIAL และสามารถร่วมโหวต ด้วยการเข้าไปที่ www.missword.com จากนั้นเลือก Thailand
โดย เกรซ นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 จะเดินทางไปประกวด มิสเวิลด์ 2019 ในคืนวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายนนี้ เวลา 21.00 น ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ