ไม่พบผลการค้นหา
นายทักษิณ ชินวัตร โพสต์สวัสดีปีใหม่ 2562 ดีใจที่ประเทศจะกลับสู่สิทธิเสรีภาพ และมีความเสมอภาค แม้ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ พร้อมขอให้คนไทยอย่าตื่นกลัวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ แนะเรียนรู้และปรับตัว

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สวัสดีปีใหม่ 2562 กับพี่น้องคนไทยทุกคน ถึงแม้ตัวจะอยู่ไกลแต่ใจอยู่ไทย และปีนี้เป็นปีที่อวยพรด้วยความดีใจที่ประเทศจะกลับคืนสู่สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ แม้จะต้องเริ่ม ก.ไก่ กันใหม่ แต่ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี แต่อดห่วงไม่ได้เพราะมีผู้รู้ทางเศรษฐกิจระดับโลกหลายคนแสดงความวิตกว่าครึ่งปีหลังของปี 2562 และต่อปี 2563 เศรษฐกิจโลกจะมีปัญหาอีกรอบ เศรษฐกิจของไทยยิ่งอ่อนแออยู่ มาเจอแรงกระแทกใหม่จะทำอย่างไร

นายทักษิณ ยังฝากแนะนำสำหรับปีนี้ไว้ว่า ทุกวันนี้เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงโลกและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคไปอย่างมาก ถ้าทำธุรกิจไม่ว่าเล็กหรือใหญ่คงต้องปรับตัวอย่างแรง อย่ารังเกียจหรือกลัวเทคโนโลยี ทุกวันนี้หลายคนเล่นเฟซบุ๊ก เล่นไลน์ เรียนรู้กันได้หมด


n.jpg

อีกทั้งทุกวันนี้ อี-คอมเมิร์ซ สร้างโอกาสให้คนตัวเล็กๆ สามารถค้าขายได้กับคนทั่วโลก ที่ทั้งสินค้าและเงินกำลังไหลอย่างอิสระมากขึ้นทุกวัน ต้องรู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์ แม้ธุรกิจอย่างธนาคารจะเหนื่อย เพราะเงินดิจิทัล กำลังมาแรง อีกหน่อยทุกประเทศจะมีเงินดิจิทัลมาใช้ควบคู่กับเงินที่เป็นธนบัตรมากขึ้นเรื่อยๆ 

สำหรับเรื่องการทหาร ต่อไปจะใช้กำลังพลน้อยลง อาวุธในปัจจุบันแทบจะโละทั้งหมด แล้วรบกันด้วยเทคโนโลยี เช่น โดรน หุ่นยนต์ และเลเซอร์ ทำให้สามารถนำคนและงบประมาณไปพัฒนาเรื่องการศึกษาและอื่นๆ ได้อีกมาก

ส่วนเรื่องการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ การรักษาโรคที่อาศัยความรู้ทางดีเอ็นเอจะมีมากขึ้น รวมทั้งการวัดความแข็งแรงของร่างกายผ่านเทเลมอร์ (Telemore) หรือตัวที่อยู่ปลายโครโมโซม เพื่อบอกว่าคนคนนั้นกำลังมีสุขภาพถดถอย ต้องปรับวิถีชีวิตอย่างไรถึงจะแข็งแรง การใช้ยาทางเคมีจะลดลง การใช้วิชาการทางฟิสิกส์มาแทนยาจะมีมากขึ้น และเมื่อคนมีอายุยืนยาวขั้น ก็จะมีเวลาใช้ชีวิตร่วมกันแสดงพลังเพื่อพัฒนาประเทศเพื่อลูกหลานของเราได้มากขึ้น

สุดท้ายนายทักษิณ พูดถึงเรื่องหุ่นยนต์เอไอ ที่จะมาแน่นอน เพราะเทคโนโลยีเอไอ จะถูกใช้งานมากขึ้นในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตร อุตสาหกรรม หรือแม้กระทั่งมาเสริมนักกฎหมายและวินิจฉัยโรคด้วยแพทย์ แต่สิ่งที่หุ่นยนต์มาแทนไม่ได้คือความคิดสร้างสรรค์ คนเราต้องเตรียมตัวเป็นนายของหุ่นยนต์ ไม่ใช่นั่งรอให้หุ่นยนต์มาไล่ให้ตกงาน ถือเป็นหน้าที่เร่งด่วนของคนเป็นรัฐบาล จึงขอเป็นกำลังใจในการเรียนรู้และปรับตัวของทุกคน โชคดีปีใหม่ 2562 

นอกจากนี้ในโพสต์ดังกล่าวยังการใส่ลิงก์เว็บไซต์ www.thaksinofficial.com เป็นการเปิดตัวเว็บไซต์ของนายทักษิณ ชินวัตรอย่างเป็นทางการด้วย

ในเว็บไซต์ทางการของนายทักษิณ แบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ Personal, Business, National Policy, Good Monday ซึ่งบทความในส่วน Natianal Policy ได้นำผลงานของอดีตนายกฯ ที่สร้างชื่อและเป็นที่จดใจของคนไทย เช่น Outside the box leadership, SME กับ Judo Strategy, หมดยุค "คนไข้อนาถา", ACD ถึง Asian Bond : การทูตเชิงรุก - การทูตเพื่อเศรษฐกิจ, OTOP ค้นพบศักยภาพ เพิ่มรายได้ จากศูนย์ถึงแสนล้านบาท, และย้อนประวัติศาสตร์ปลดหนี้ IMF 

เนื้อหาบางส่วนจากหัวข้อ National Policy อย่างหมดยุค "คนไข้อนาถา" รัฐบาลทักษิณใช้เวลาเพียง 8 เดือนในการแปลงนโยบายให้มีผลในทางปฏิบัติ โดยมีทุกองคาพยพของกระทรวงสาธารณสุขมาร่วมกันทุ่มเทในเรื่องนี้ในที่สุดโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เริ่มนำร่องใน 6 จังหวัด เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2544 และขยายเพิ่มอีก 15 จังหวัดในวันที่ 15 มิ.ย. 2544 

โดย "30 บาทรักษาทุกโรค" ถือเป็นนโยบายในระดับที่นำไปสู้การปฏิรูประบบบริการสาธารณสุขครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประเทศไทย ไม่เพียงทำให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้น ลดอัตราการเจ็บป่วย เสียชีวิต จากการเข้าไม่ถึงการรักษาพยาบาล แต่ยังเพิ่มพลังพลเมืองที่มีคุณภาพให้ระบบเศรษฐกิจไทยและยังเป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เศรษฐกิจ

9.jpg


และวิกฤตเศรษฐกิจ พ.ศ. 2540 หรือ "วิกฤตต้มยำกุ้ง" ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศหยุดชะงัก ธุรกิจใหญ่ น้อยต้องยุติการดำเนินการ ผลพวงจากวิกฤตต้มยำกุ้งทำให้ไทยอยู่ใกล้สภาวะล้มละลาย รัฐบาลในขณะนั้นต้องกู้เงินจากสถาบันการเมืองระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ กว่า 17,200 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อประคับประคองสถานการณ์เศรษฐกิจ

เมื่อ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ภารกิจแรก ที่เร่งดำเนินการคือ การที่จะต้อง “ล้างหนี้” ด้วยการแยกหนี้ดีออกจากหนี้เสีย เพื่อให้ระบบการเงินเคลื่อนต่อไปได้ และด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน ด้วยหลักการ “ลดรายจ่าย สร้างรายได้ ขยายโอกาส” มุ่งเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจจากระดับพื้นฐาน สู่โครงสร้างระบบเศรษฐกิจระดับสูง ในที่สุดก็สามารถชำระหนี้ ไอเอ็มเอฟ ได้ในปี พ.ศ.2546 ก่อนครบกำหนดชำระถึง 2 ปี ทำให้ประเทศไทยพ้นจากภาวะใกล้ล้มละลาย นำศักดิ์ศรีกลับคืนสู่คนไทยและประเทศไทยจนสำเร็จ 

1.jpg


โดยวันประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทยชำระหนี้งวดสุดท้ายให้ ไอเอ็มเอฟ ดังกล่าวนั้นเป็นการชำระก่อนครบกำหนดชำระถึง 2 ปี ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 31 ก.ค. พ.ศ.2546 โดย ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้นได้แถลงต่อประชาชนคนไทย ชี้แจงรายละเอียดทุกขึ้นตอน พร้อมประกาศยืนยันว่า ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจและภูมิใจในความเป็นคนไทย เพราะวันนี้เราไม่มีพันธะใดๆ พร้อมกับประกาศว่า ในก้าวต่อไป จะเป็นสิ่งที่จะต้องทำประเทศให้เข้มแข็ง ท่ามกลางกระแสตอบรับจากทุกฝ่ายอย่างล้นหลาม