โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้นำจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในวุฒิสภา ต่างผลักดันให้ยูเครนได้รับความช่วยเหลือในช่วงสงคราม แต่กลับเผชิญกับการต่อต้านจากสมาชิกพรรครีพับลิกันสายอนุรักษ์นิยมที่ยืนกรานจะใช้มาตรการเพื่อจัดการกับการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายที่ชายแดนสหรัฐฯ ติดกับเม็กซิโก
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (4 ก.พ.) มีการเปิดเผยว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะมอบเงิน 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2.14 ล้านล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือยูเครน ซึ่งกำลังตอบโต้การรุกรานของรัสเซีย แต่กลับต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากการระงับการขนส่งกระสุนและขีปนาวุธของสหรัฐฯ มายังยูเครน
ข้อตกลงดังกล่าวยังจะมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอลจำนวน 1.41 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 5 แสนล้านบาท) และ 2.44 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 8.7 หมื่นล้านบาท) เพื่อจัดการกับความมั่นคงในทะเลแดง ซึ่งกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนได้เปิดฉากโจมตีการขนส่งเชิงพาณิชย์หลายสิบครั้ง และ 4.83 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.72 แสนล้านบาท) เพื่อสนับสนุนพันธมิตรในเอเชีย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นระหว่างจีนและไต้หวัน
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีอำนาจใหม่ที่สามารถสั่งขับไล่ผู้อพยพย้ายถิ่นฐานทันที หากมีการยื่นคำร้องขอลี้ภัยที่ล้นเกินทางทางการ และการยื่นขอลี้ภัยที่ชายแดนจะต้องถูกบังคับใช้อย่างรวดเร็วและเข้มงวดยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายคาดว่าจะเป็นประเด็นสำคัญในระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือน พ.ย.นี้ ในขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้นำพรรครีพับลิกัน พยายามหาเสียงด้วยการกล่าวโจมตี “การบุกรุก” จากชายแดนทางตอนใต้ของประเทศ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไบเดนเรียกร้องให้รัฐสภาสหรัฐฯ ผ่านข้อตกลงดังกล่าวอย่างรวดเร็ว เพื่อที่เขาจะได้ลงนามในกฎหมาย พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเตือนพรรครีพับลิกันที่แสดงความตื่นตระหนกเกี่ยวกับความปลอดภัยของชายแดนสหรัฐฯ ว่า “การไม่กระทำอะไรเลยไม่ใช่ทางเลือก”
“ตอนนี้เราได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับข้อตกลงความมั่นคงแห่งชาติของทั้งสองฝ่าย ซึ่งรวมถึงการปฏิรูปชายแดนที่ยากที่สุดและยุติธรรมที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ผมสนับสนุนมันอย่างยิ่ง” ไบเดนกล่าวในแถลงการณ์
ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต กล่าวว่าเขาจะตั้งเป้าที่จะลงคะแนนเสียงในร่างกฎหมายดังกล่าวในวันพุธนี้ (7 ก.พ.) โดยอธิบายว่าร่างกฎหมายดังกล่าวเป็น “ก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงของชาติของอเมริกาในต่างประเทศและตามแนวชายแดนของเรา” พร้อมกันนี้ ชูเมอร์กล่าวในแถลงการณ์อีกว่า “นี่เป็นหนึ่งในกฎหมายที่จำเป็นและสำคัญที่สุดที่รัฐสภาเสนอในรอบหลายปี เพื่อทำให้แน่ใจว่าอเมริกาจะมีความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงในอนาคต”
แม้ร่างกฎหมายนี้จะได้รับการสนับสนุนจากแกนนำของพรรคเดโมแครต แต่ร่างกฎหมายดังกล่าวยังเผชิญกับโอกาสที่ไม่แน่นอนทั้งในการพิจารณาของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากอยู่ในตอนนี้
ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ข้อตกลงของวุฒิสภาจะ “ตายทันทีเมื่อมาถึง” หากข้อตกลงดังกล่าถูกส่งมายังสภาผู้แทนราษฎร ที่มี สส.พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก
“ผมเห็นมามากพอแล้ว ร่างกฎหมายนี้เลวร้ายยิ่งกว่าที่เราคาดไว้ และจะไม่เข้าใกล้การยุติหายนะชายแดนที่ประธานาธิบดีสร้างขึ้น” จอห์นสันกล่าวในร X “ดังที่ผู้นำการเจรจาของพรรคเดโมแครตประกาศว่า ภายใต้กฎหมายนี้ 'พรมแดนไม่มีวันปิด' ”
ร่างกฎหมายดังกล่าวอาจเผชิญกับการต่อต้านจากสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตบางส่วนเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมแก่อิสราเอล ซึ่งอยู่ภายใต้แรงกดดันจากนานาชาติที่เพิ่มสูงขึ้นต่อวิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ทั้งนี้ เบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกจากมลรัฐเวอร์มอนต์ เรียกร้องให้มีการนำเงิน 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.56 แสนล้านบาท) ที่จัดสรรไว้สำหรับอาวุธยุทโธปกรณ์ออกจากร่างกฎหมายนี้ ในขณะเดียวกัน แซนเดอร์สได้เรียกร้องให้มีการกันงบประมาณไว้สำหรับระบบการป้องกันด้วย
ที่มา: