พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงชี้แจงกรณีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้ขอให้ตนถอดคำพูดว่า "I Hear Too" ในการอภิปรายเมื่อวานนี้ (26 ต.ค. 2563) ว่า เป็นการไม่ฟังเหตุผล ตนจึงเดินออกจากห้องประชุมทันที หลังถูกปิดไมค์ ไม่ใช่ถูกเชิญออก
พร้อมย้ำว่าคำว่า I hear too ตนเอามาจากที่เขาพูด ไม่ได้ผลิตขึ้นมาใหม่ ทำไมจะนำเข้ามาพูดในสภาไม่ได้ ท่านชวนอาจหงุดหงิด หาก พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก รัฐมนตรีในพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก็ต้องลาออก ถ้ายุบสภาท่านก็หมดตำแหน่ง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวเสียงสูงเชิงประชด ว่า “ประชาธิปไตยสุจริ๊ตตต ไม่เป็นประชาธิปไตยทุจริ๊ตตต รีบแจ้นเข้าไปเลย ได้รัฐมนตรี 7 คน แถมประธานสภาอีกคำแหน่ง แม้กระทั่งชวน อย่ามาพูด สมัยนี้อน่าคิดว่าจะมาโกหกกันได้”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เปิดเผยว่า ตอนชวนเป็น นายกรัฐมนตรี มีคนหอบเงินมาให้ 5 ล้าน ชวนไม่รับ ส่งข้อมูลมาให้ตนสอบสวน แต่พอมาทำงานสภา ศรัทธาหายไปหมด ตนได้เห็นความจริง ถ้าท่านตรงไปตรงมา ไม่เป็นอย่างนี้หรอก จากเหตุการณ์เมื่อวาน "ผมบอกเลยว่าหมดศรัทธา ไม่เชื่อถือ ทำให้คนดีในพรรคประชาธิปัตย์ ลาออกหมด" ขอให้ประชาชนตัดสินระหว่างประธานสภาฯ กับตน ใครทำประโยชน์ให้กับประเทศมากกว่ากัน พร้อมย้ำว่าเงินซื้อคนอย่างตนไม่ได้ เพราะตนไม่ใช่ขี้ข้าเผด็จการ
นอกจากนี้ กล่าวว่า การเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อหาทางออกประเทศ เป็นไปไม่ได้ เพราะเปิดประชุมมาฟังความข้างเดียว นักศึกษาไม่มีโอกาสแสดงความเห็น เพราะฉะนั้นเชิญมาเวลาและเสียงบประมาณ สภาต้องจัดอาหารเลี้ยงวันละ 8 แสนกว่าบาท 2 วันก็ 1.6 ล้านบาท ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย พร้อมย้ำว่าการประชุมวิสามัญมีความจำเป็น ที่จะต้องนำความจริงที่เกิดขึ้นและเป็นปัญหาเข้ามาพูดคุยกัน ซึ่ง ส.ส. หลายคนก็พูดว่า นายกฯ เป็นตัวปัญหา รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็น รัฐธรรมนูญฉบับโกงที่สุด ก็ต้องดูนักศึกษาเรียกร้องอะไรบ้าง เข่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เรื่องเบื้องบนขออนุญาตไม่พูด
ทั้งนี้ ที่นายกฯ บอกให้ถอยคนละก้าวเป็นไปไม่ได้เพราะนักศึกษาไม่ได้อะไร ต้องแฟร์และวินทั้ง 2 ฝ่าย ต้องดูว่าการแก้รัฐธรรมนูญโดยไม่แตะสถาบัน นักศึกษาโอเคหรือไม่ พอมาก้าวที่ 2 แม้แก้รัฐธรรมนูญ หากนายกรัฐมนตรี ไม่ลาออกก็จะเป็นเงาทมิฬอยู่เบื้องหลัง ไม่มีทางสำเร็จ ดังนั้นตนเสนอนายกรัฐมนตรี ต้องลาออกเป็นมา 7 ปีแล้ว ยังไม่พอ ยังไม่อิ่ม มีกิเลสอะไรนักหนา จะได้ไม่เดือดร้อนถึงสถาบัน