วันที่ 21 เม.ย. เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ ห้องประชุมคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พรรคเพื่อไทย จัดเสวนาวงเล็ก “ตัวตึงถาม เพื่อไทยตอบเรื่องการศึกษา : ตอน ถึงจะเรียนอยู่ ก็หาตังค์ได้นะ รู้ยัง” นำโดย พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. , ดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กทม. , ณหทัย ทิวไผ่งาม ประธานคณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ , เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย , ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ , ลีลาวดี วัชโรบล , เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ 3 ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ชานันท์ ยอดหงส์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โดยมีคณาจารย์จาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ และนิสิตจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ และรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนจำนวนมาก
เริ่มด้วย พวงเพ็ชร กล่าวขอบคุณคณะฯ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ให้พื้นที่พรรคเพื่อไทย และทุกพรรคการเมือง มาเสนอแนะนโยบายด้านการศึกษา วันนี้พรรคเพื่อไทยมีทีมงานด้านยุทธศาสตร์ด้านนโยบายการศึกษา และ เศรษฐกิจมาแลกเปลี่ยนกัน โดยไม่ได้มาพูดให้ฟังเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการมาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
จากนั้น ณหทัย กล่าวว่า ขอบคุณทางคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ที่เปิดโอกาสให้ทุกพรรคการเมืองเข้ามานำเสนอนโยบาย พรรคเพื่อไทยจึงขอนำนโยบายสร้างระบบการเรียนรู้ดิจิทัลแบบครบวงจร “แพลตฟอร์ม Learn to Earn” เพื่อขจัดปัญหาการเรียนรู้ อยากให้ทุกคนเรียนไปทำงานไป สร้างรายได้ใหม่ให้เกิดขึ้นได้จริง โดยยกตัวอย่างแพลตฟอร์มการเรียนที่เกิดขึ้นในประเทศสิงคโปร์ รวมถึง ที่เกาหลีใต้ ที่เป็นแพลตอร์ม Life Long Learning ซึ่งนโยบายนี้ ไม่ขายฝัน และการที่มีแพลตฟอร์มนี้ จะทำให้ 1.ลดความเหลื่อมล้ำ ใครอยากเรียนอะไรต้องได้เรียน เนื้อหาหลากหลายทันสมัย เรียนสนุก 2.ขจัดปัญหาคนตกงานจะต้องหมดไป เพราะงานจะวิ่งเข้าผู้เรียน ผู้เรียนเห็นงานเห็นอาชีพเห็นรายได้ตอบแทนตั้งแต่ก่อนเรียน ระบบยังออกแบบช่วยให้มีงานทำเร็วที่สุด เพราะบางงานผู้จ้างงานไม่สนวุฒิ สนแค่เราทำงานได้หรือไม่มากกว่า
ณหทัย กล่าวอีกว่า 3.ระบบยังมีตัวช่วยทดสอบสมรรถนะขอผู้เรียน เพื่อเข้ากับเรื่องที่เรียนและหางานที่เหมาะสมกับสมรรถนะ เราจะไม่เอาลิงไปว่ายน้ำเอาปลามาปีนต้นไม้ ยิ่งค้นหาตัวเองเจอไว้เท่าไร ยิ่งฉายแววศักยภาพได้ไวขึ้น 4.ออกแบบการเรียนเองได้ ตั้งแต่เวลาเรียน ถ้าขยันก็สามารถจบไว แข่งกับตัวเอง หรือ ถ้าเรียนไปทำงานไปก็ค่อยๆสะสมหน่วยกิต ไปเรื่อยๆได้ เทียบโอน หรือย้ายสาขาวิชาเรียนได้หากไม่ชอบ หมดยุคของเรียนจนจบแล้วเพิ่งค้นพบตัวเองว่าไม่ชอบแต่ต้องทนเรียน 5.สร้างรายได้ใหม่ รายได้เสริม หรือเปลี่ยนอาชีพ ถ้ารู้สึกเบื่องานที่ทำอยู่ หรือเงินเดือนไม่เพียงพอ ผู้เรียนสามารถเข้ามาเรียนเพิ่มเพื่อหางานใหม่ หรือรับงานเสริมหลังเรียนเสร็จได้เลย
"ต้องขอบคุณคณะวิศวะฯ จุฬาฯ ที่เปิดหลักสูตร Life Long Learning การเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งเปิดโอกาสให้ยืนหยุ่นการเรียน และเก็บสะสมหน่วยกิต โดยไม่มีวันหมดอายุ พรรคเพื่อไทยจะผลักดันให้เกิดธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ ที่ไม่ได้เชื่อมแค่มหาวิทยาลัย แต่เชื่อมไปยังระดับการศึกษามัธยมปลาย น้องคนไหนอยากเริ่มเรียนเก็บหน่วยกิตก็สามารถทำได้เลย โดยหน่วยกิตจะถูกเก็บไว้บน Cloud และไม่มีวันหมดอายุ และพรรคเพื่อไทย จะให้ทางเลือกใหม่ ในการศึกษา ที่ให้น้องๆทุกคนออกแบบด้วยตัวเองค่ะ"
ต่อมา ธีรรัตน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราไม่เคยเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษาเกิดขึ้นในประเทศไทย จะมีบ้างที่มหาวิทยาลัยของเอกชน และบางแห่ง ที่ปรับตัวให้สอดคล้อง แต่ก็เป็นเพียงแค่บางคณะเท่านัน แต่ในภาพกว้างยังสิ้นหวัง ดังนั้น วันนี้พรรคเพื่อไทยจะเป้นความหวัง เราจะเริ่มตั้งแต่ก่อนการเรียนรู้ จนถึงประถม มัธยม และอุดมศึกษา ซึ่งอายุ 18 ปี ก็สามารถจบปริญญาตรีได้ โดยนโยบายดังกล่าว สามารถลดเวลา 5 ปีแรก ในระดับประถม เราจะลดการศึกษาในส่วนที่จำเป็นออกไป และใช้การเรียนรู้ในระดับวิชาการ และการใช้ชีวิตให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ต่อมาในระดับมัธยมศึกษา อีก 5 นั่นเท่ากับว่า เราเวลาเรียนจากเดิมทั้งประถมและมัธยมจากเดิมรวม 12 ปี เหลือเพียง 10 ปี และ + ปริญญาตรี ที่แต่เดิมเรียนจบต้องใช้เวลาถึง 4 ปี โดยเราจะลดเวลาเหลือเพียง 3 ปี ตามหลักสูตรที่รัฐกำหนด เพื่อให้ทุกคนมีเวลาไปประกอบอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับครอบครัวโดยเร็วที่สุด
ถ้าทุกคนเริ่มได้เร็ว และค้นพบตัวเองได้เร็วขึ้น โอกาสที่จะสิ่งที่รัก และได้งินเดือนกลับมาด้วย ก็จะเกิดเร็วขึ้น เราเชื่อว่า 3 ปี ในมหาวิทยาลัย เป็นเวลาที่เหมาะสมและเพียงพอ และเรายังมีคอร์สการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อสร้างศักยภาพเพิ่มขึ้นได้ด้วย นี่คือสิ่งที่พรรคคิดเพื่อยกระดับการศึกษาครั้งใหญ่ของไทย ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ไม่ใช่เพียงแค่พูด แต่ไม่สามารถทำได้
"พี่อิ่มเป็นคณะ กมธ.พิจารณา พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ที่ยังไม่ผ่านสภา เพราะมีปัญหาอยู่หลายเรื่อง เช่น การจำกัดช่วงวัยในการศึกษา ซึ่งไม่มีความจำเป็น เพราะความสามารถแต่ละคนแตกต่างกัน ซึ่งถ้ากำหนดแบบนั้น จะเป็นการจำกัดความสามารถคนเยาวชน พรรคเพื่อไทยจะเร่งดำเนินการที่สุด เผื่อผลักดัน พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ใหม่ ที่มีประชาชน-ผู้เรียน เป็นศูนย์กลาง และเราจะทำตั้งแต่ปีแรกที่หลังการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยคาดหวังว่า เด็กไทยจะมีความสุขกับสิ่งที่จะได้เรียน และงานที่จะได้ทำในอนาคต รวมถึงสร้างรายได้ให้ครอบครัว ลดภาระของผู้ปกครองทึกช่วงอายุการศึกษา เพราะเราคิดใหญ่ คิดใหม่ คิดไกล" ธีรรัตน์ กล่าว
จากนั้น เผ่าภูมิ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย มีแนวทางเรื่องรายได้ที่จะเกิดหลังการศึกษา คือนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และเงินเดือนวัยทำงาน เงินปริญญาตรี 25,000 บาท ทั้งภาคเอกชน และข้าราชการ โดย 2 กลไกลนี้ จะทำควบคู่กันไปทั้งระบบ เป้าหมายนี้จะเกิดภายในปี 2570 ในขณะเดียวกัน เราจะเพิ่มทักษะ ผ่านโครงการ 1 ครบครัว 1 ซอฟต์พาเวอร์ และอยากจะอธิบายถึงวิธีคิดของนโยบายดิจิทัลวอลเล็ท 10,000 โดยเรากระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน-หมู่บ้าน ทั่วประเทศ เพราะเรามีเงื่อนไขว่าต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน และ ภายใน 4 กิโลเมตรผ่านที่อยู่ตามบัตรประชาชน ซึ่งสามารถปรับยืดหยุ่นได้ในบางพื้นที่ และนโยบายนี้เราทำเพื่อต้องการจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้กับประเทศ เพื่อรองรับเศษฐกิจดิจิทัล โดยเราสามารถนำบล็อกเชนที่เราทำขึ้นมาสำหรับโครงการนี้ ไปใช้กับแพลตฟอร์ม Learn to Earn สามารถเก็บหน่วยกิตได้อีกด้วย
จากนั้น ดนุพร กล่าวว่า นโยบายการศึกษาของพรรคเพื่อไทย จะเป็นการวางรากฐาน "ก้าวแรก" ของการพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศ แพลตฟอร์ม Learn to Earn เป็นการเพิ่มโอกาสทางการศึกษาของคนไทย
ดนุพร กล่าวต่อไปอีกว่า โอกาสของการหางานของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน ดังนั้น พรรคเพื่อไทยไม่ได้คิดแค่นี้ น้องหลายๆคนจบตั้งแต่อายุ 18 ปี ทำงานอยู่ พออายุ 20 เจอหมายเรียกทหาร ต้อไปจับใบดำ ต้องเข้าไปเป็นทหารเกณฑ์ ดังนั้น เมื่อเรากระะตุ้นเศรษฐกิจแล้ว วางรากฐานการศึกษาแล้ว การเกณฑ์ทหาร ก็ไม่จำเป็นสำหรับประเทศไทยอีกต่อไป เราอยากเปิดโอกาสให้ทุกคนมีสิทธิเลือกอนาคตของตัวเอง และการยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ให้มีทหารอีกต่อไป ทหารยังเป็นอาชีพที่มีเกียรติอยู่ เราอยากให้ทหารเป็นไปด้วยสมัครใจ ไม่ต้องผ่อนผันกันอีกแล้ว พรรคเพื่อไทยคิดแล้ว ถ้าน้องอยากเป็นทหาร น้องไปสมัคร การยกเลิกเกณฑ์ทหาร เราจะลดงบประมาณกองทัพ เพิ่มเดือนทหารอาชีพให้มีศักดิ์ศรี และเป็นมืออาชีพ เพราะ 1-2 ปี ในค่ายทหาร ทำให้เราลดโอกาสในชีวิตมหาศาล อีกเรื่อง คือเรื่องเพศสภาพ พรรคเพื่อไทย ยืนยันในการผลักดันสมรสเท่าเทียม เพราะในเมื่อเราเลือกที่จะเรียนได้ แต่ทำไมเราเลือกที่จะเป็นไม่ได้
จากนั้นตัวแทนนักศึกษาได้ถามถึงจุดยืนในเรื่องของ Sex Worker ถูกกฎหมายของทางพรรคเพื่อไทย และอีกคำถามเนื่องจากตัวผู้ถามเป็นคนเชียงราย จึงอยากทราบนโยบายเกี่ยวกับชาติพันธุ์กับการศึกษาของทางพรรคเพื่อไทย
โดยคำถามนี้ ชานันท์ ยอดหงษ์ ตัวแทนพรรคเพื่อไทย ตอบว่า ในด้านบุคคลไร้สัญชาติหรือบุคคลหมายเลขศูนย์ ในสมัยรัฐบาลของคุณทักษิณได้มีการเปิดโอกาสให้กลุ่มบุคคลไร้สัญชาติได้เข้ารับการศึกษา และได้รับรองการการศึกษา ทำให้ได้รับสิทธิทางพลเมือง ทางพรรคเพื่อไทยจะมีการผลักดันให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้เป็นพลเมืองไทย เพื่อได้รับสิทธิ์ต่างๆไม่ใช่แค่เรื่องการศึกษาเท่านั้น นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยก็จะผลักดันให้การศึกษาครอบคลุมไปถึงกลุ่มผู้พิการทั้ง 7 กลุ่มอีกด้วย
“ในด้านของ Sex Worker การทำให้ถูกกฎหมายจะนำมาซึ่งการถูกควบคุมกำกับบางประการ เช่นการลงทะเบียนเสียภาษี ซึ่งทางเราคิดว่าควรทำให้ไม่ผิดกฎหมายควรเริ่มต้นจากการพูดคุยกับภาคประชาสังคมเพื่อร่วมกันผลักดัน พรบ. คุ้มครองผู้ประกอบอาชีพค้าบริการ จากนั้นต้องแก้ไข พรบ.ปราบปรามการค้าบริการทางเพศ ปี 2539 คิดว่าเป็นการหาทางออกที่ดีร่วมกันทั้งภาคประชาสังคมและภาคการเมือง” ชานันท์ กล่าว