คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยกล่าวภายหลัง นำนายวิตต์ ก้องธรนินทร์ ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคเพื่อไทยเขตสะพานสูง เดินพบปะพี่น้องประชาชนและผู้ค้าที่ตลาดสัมมากร และกล่าวถึงกรณีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งปรากฏเป็นข่าวว่าเป็นบุคคลใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่ากระบวนการเลือก ส.ว. ที่ พล.อ.ประยุทธ์มอบหมายให้พล.อ.ประวิตร เป็นประธานทำหน้าที่คัดเลือก ส.ว. และเชื่อว่าจะให้ ส.ว.กลับมาเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องตั้งคำถามว่าเรื่องเหล่านี้ถูกต้องหรือไม่ และเป็นประโยชน์กับประชาชนโดยส่วนรวมอย่างไร เพราะกระบวนการคัดเลือก ส.ว.ต้องสูญเสียงบประมาณจำนวนมาก แต่กลับมีแต่ทหาร อดีตนายทหาร คนใกล้ชิดพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ป���ะวิตร ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม จึงขอให้ประชาชน อย่าท้อออกไปเลือกพรรคเพื่อไทยเอาชนะเสียงส.ว.250 คน
เมื่อถูกถามว่า หลังจากพรรคไทยรักษาชาติ ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรค ประชาชนที่เคยสนับสนุนจะตัดสินใจหรือพิจารณาการลงคะแนนต่อไปอย่างไร
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การเมืองปัจจุบันมีเพียง 2 ขั้ว คือขั้วที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ และไม่สนับสนุน ในการต่อท่ออำนาจ แม้จะมีบางพรรคสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ แต่ยังไม่ประกาศตัว จึงถือว่าอยู่ใน 2 ขั้วอำนาจด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงมั่นใจว่าคะแนนในส่วนดังกล่าวจะยังอยู่ที่ฝ่ายประชาธิปไตย
แจงกรณีปราศรัยที่ จ.เลย
ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งกล่าวถึงกรณีที่ ทนายความอิสระเดินทางไป แจ้งความกล่าวโทษต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเลยให้ยุบพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า การปราศรัยที่เกิดขึ้นในจังหวัดเลย เนื่องจาก สมาชิกสภาจังหวัด คนที่ปรากฏเป็นข่าว ได้รับการเสนอชื่อในชั้นของคณะกรรมการสรรหาพรรคเพื่อไทย แต่ภายหลังได้ขอถอนตัว ซึ่งไม่ทราบรายละเอียดในขั้นตอนดังกล่าว จึงไม่มีเจตนาสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบ และมั่นใจว่า การแนะนำตัวบุคคลดังกล่าว ไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแง่ของคะแนนนิยม จึงพร้อมจะไปต่อสู้ในข้อเท็จจริง
ทั้งนี้การปราศรัยบนเวทีที่จ.เลย เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา คุณหญิงสุดารัตน์ประกาศบนเวทีว่า ถ้าเลือกพท.แล้วจะได้เบอร์ 4 นายเลิศศักดิ์ พัฒนกุล เป็นส.ส. และได้นางศุกร์ไกล จันทร์สว่าง ซึ่งเป็นสจ.เขตอำเภอเมืองเลย ไปเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
อย่างไรก็ตามข้อเท็จจริง ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพท. 97 คนไม่มีรายชื่อนางศุกร์ไกล ทำให้ นายอาณัศ ช้างอินทร์ ทนายความชื่อดังของจ.เลย ยื่นหนังสือให้ยุบพรรคเพื่อไทย(พท.) กับพนักงานกกต. โดยเห็นว่า เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 73(5) หลอกหลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
ปชป. วอน ส.ว. 250 คน เคารพเสียงประชาชน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า การคัดเลือกสมาวุฒิสภา หรือ ส.ว. 250 สิ่งที่ต้องให้ความสนใจคือ ท่าทีของ ส.ว. ทั้ง 250 จะเคารพการตัดสินใจของประชาชนหรือไม่ เพราะไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามก็ขอให้เคารพการตัดสินใจของประชาชนตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ระบุชัดเจน ว่า ส.ว. คือตัวแทนของประชาชน และ ยืนยันจุดยืนว่า พรรคที่ได้เสียงข้างมากจากการเลือกตั้งใจควรได้จัดตั้งรัฐบาล
นายอภิสิทธิ์ มั่นใจว่า การเลือกตั้งจะยังคงมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม ส่วนกระแสข่าวอาจจะเกิดการรัฐประหารขึ้นอีกนั้น มองว่ายังไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้เกิดเหตุการดังกล่าว
เมื่อถูกถามว่า กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนเสียงมากขึ้นหรือไม่
อดีตนายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ตอบยาก เพราะขึ้นอยู่กับกลุ่มคนที่ตั้งใจเลือกพรรคไทยรักษาชาตินั้น จะตัดสินใจอย่างไร แต่ก็ยอมรับว่า กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้ตั้งความหวังที่จะได้คะแนนเสียงจากกลุ่มคนของพรรคไทยรักษาชาติ อีกทั้งจากผลสำรวจยังมีกลุ่มคนจำนวนมากที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่า จะเลือกพรรคการเมืองใด ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีการแข่งขันสูง
โดยการยุบพรรคไทยรักษาชาติจะทำให้สถานการณ์การเมืองเกิดความขัดแย้งขึ้นหรือไม่นั้น ส่วนตัวยังไม่ได้มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว แต่ต้องยอมรับ ว่า การบังคับใช้กฎหมายบางอย่างของผู้มีอำนาจอาจสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความขัดแย้ง รวมถึงเรียกร้องให้พรรคการเมืองหาเสียงโดยปราศจากการสร้างความขัดแย้ง และ พรรคการเมืองไม่ควรพาดพิงหน่วยงานรัฐที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เพราะอาจจะทำให้การเดินหน้าทางระบอบประชาธิปไตยสะดุด
.
'สนธิรัตน์' ชี้ 250 ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ เป็นอำนาจตามรัฐธรรมนูญ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า เชื่อมั่นในกระบวนการสรรหา 250 ส.ว.ที่จะได้คนที่ดี มีคุณภาพ เป็นตัวแทนจากทุกภาคส่วน ซึ่งจะเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่สำคัญในการเปลี่ยนผ่านและนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้า ส่วนการที่ ส.ว.มีอำนาจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นถือเป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนในการเคารพรัฐธรรมนูญที่ผ่านการลงประชามติของประชาชน และจะดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ ด้วยการทำให้ได้ที่นั่งส.ส มากที่สุดและเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสียงเกิน 250 เสียง
เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พรรคยังไม่ได้กำหนดแผนงานการลงพื้นที่หาเสียงของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคในพื้นที่ต่างๆ โดยพล.อ.ประยุทธ์จะทำหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แยกออกจากพรรคอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้พรรคพลังประชารัฐเสียเปรียบ พรรคจึงเร่งหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย โดยเตรียมไม้เด็ดไว้หาเสียงกับประชาชน เพื่อไปสู่เป้าหมายการได้ที่นั่งส.ส 150 ที่นั่ง ทั้งในระบบเขตและบัญชีรายชื่อ
ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสนธิรัตน์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ได้ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.หาเสียงย่านบางแค โดยปราศรัยตอนหนึ่งกับประชาชนที่มาต้อนรับว่า หากเลือกผู้สมัคร ส.ส ของพรรคพลังประชารัฐ นอกจากจะได้ ส.ส.แล้ว ยังจะได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงนายกรัฐมนตรีที่ชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :