เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2566 ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้งสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ดร.ณัฎฐ์ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ออกมาวิพากษ์วิจารณ์โจมตีซูเปอร์โพล กรณีผลประมาณการจำนวนที่นั่ง ส.ส. ของ ซูเปอร์โพลไม่ครอบคลุม ผิดหลักวิจัย ทำนายไม่ต่างจากหมอเดา ไร้ความน่าเชื่อถือว่า ตนในฐานะผู้ก่อตั้งซูเปอร์โพลขอชี้แจงฐานคติของ ดร.ณัฎฐ์ ว่าซูเปอร์โพลได้ใช้เครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า Net Assessment หรือการประเมินขั้นสุทธิ สำหรับสังคมไทยเครื่องมือนี้เป็นนวัตกรรมเครื่องมือด้านข้อมูลด้วยการวิจัยทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพจริงโดยเก็บข้อมูลแบบผสมผสาน (Mixed Mode of Data Collection) ทั้งข้อมูลทุติยภูมิ ปฐมภูมิการสัมภาษณ์และให้คนตอบตอบเองผ่านทางโทรศัพท์และเดินเคาะประตูบ้านครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและพื้นที่มาสร้างโมเดลคณิตศาสตร์และผลลัพธ์ในการออกผลการศึกษาจำนวนที่นั่ง ส.ส. ครั้งนี้
จึงเป็นไปได้มั้ยว่า ฐานคติของ ดร.ณัฎฐ์ อาจจะคลาดเคลื่อนไปเกินขอบเขตความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ที่ล้ำเส้นเข้ามาในขอบเขตความเชี่ยวชาญกันคนละด้านที่คณะทำงานของซูเปอร์โพล สะสมการทำงานด้านข้อมูล ความแม่นยำ ตามหลักสากล มากว่า 20 ปี จึงขออธิบายหลักการการศึกษาประมาณการจำนวนที่นั่ง ส.ส. ครั้งนี้ ดังนี้
1) คำนิยามศัพท์ที่ใช้ คำว่า ฐานคติ อาจจะหมายรวมถึง สิ่งที่บางคนแสดงออกโดยไม่รู้สึกตัว เร่งรีบ อาจเกิดจาก อคติ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และพฤติกรรมของคนนั้นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ ที่จำเป็นต้องได้รับการชี้แจง เพื่อพัฒนาในทางที่ดีขึ้นต่อองค์ความรู้ ข้อเท็จจริงมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว 2) ผลการศึกษาของ ซูเปอร์โพล ในการประมาณการจำนวนที่นั่ง ส.ส. แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ จำนวนที่นั่งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 ที่นั่ง และจำนวนที่นั่งแบบบัญชีรายชื่อ 100 ที่นั่ง อธิบายเบื้องต้นได้ ดังนี้
(1) ซูเปอร์โพล มีการเก็บข้อมูลสถิติผลการเลือกตั้งปี 2562 และสำรวจเกาะติดทัศนคติ ความคิดเห็น และ
พฤติกรรมของประชาชนในทางการเมืองมาโดยตลอด จึงได้ใช้ Mathematical Model กับตัวเลขที่ค้นพบทุกเขตเลือกตั้งที่ผ่านมา จึงทำมากกว่าการทำโพลเพียงอย่างเดียว เครื่องมือนี้เรียกว่า Net Assessment หรือการประเมินขั้นสุทธิ ซึ่งเครื่องมือนี้มีอยู่จริงและกลายเป็นสำนักงาน Net Assessment ในเพนตากอน กระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา ที่ผมเคยเข้าไปศึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้าน Net Assessment ที่นั่นเป็นเวลา 2 ปี Net Assessment ช่วยทำให้เห็นภาพอนาคต (Scenario) ที่ชัดเจนแม่นยำว่าอะไรจะเกิดขึ้น ลองใช้เสิร์ชเอนจิน ค้นดูได้
(2) สิ่งที่ค้นพบคือ ปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ย้ายขั้ว และการย้ายพรรคของผู้สมัครไม่มีผลต่อการตัดสินใจทางการเมืองแบบหน้ามือเป็นหลังมือ และปัจจัยอื่น ๆ ก็เช่นกัน เมื่อปัจจัยสำคัญส่วนใหญ่เหมือนเดิมจึงทำให้การเก็บค่าสถิติจากทุกเขตเลือกตั้งในเชิงปริมาณที่มากกว่าการทำโพลสามารถนำมาเป็นผลการศึกษาความเป็นไปได้ของจำนวนที่นั่ง ส.ส. แต่ละเขตเลือกตั้งได้ และพบด้วยว่าประชาชนส่วนใหญ่เลือกคนไหนก็คนนั้นและประชาชนชอบพรรคไหนก็พรรคนั้น โดยคณะทำงานซูเปอร์โพล เก็บข้อมูลต่อเนื่องที่เป็น Empirical Data มาเติมใน Math Model และยังเหลือเวลาอีกประมาณ 30 วัน ก่อนวันเลือกตั้ง เชื่อมั่นว่าจะให้ความแม่นยำ ซึ่ง ดร.ณัฎฐ์ฯ น่าจะสืบค้นประวัติความแม่นยำของซูเปอร์โพลได้ไม่ยาก
(3) ซูเปอร์โพล ใช้ตัวอย่าง 6,000 กว่าตัวอย่างที่ครอบคลุมหลากหลายด้าน เพศ อายุ อาชีพ การศึกษา รายได้ และภูมิภาค ทั่วประเทศเพื่อประมาณการจำนวนที่นั่ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ มีการระบุผลการศึกษาแบบจุด (Point Estimation) และแบบช่วง (Interval Estimation) อย่างชัดเจนในตาราง และขนาดตัวอย่างเท่านี้มากกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา โดยครั้งหนึ่งช่วงลงประชามติรัฐธรรมนูญ ซูเปอร์โพลสำรวจตัวอย่างเพียง 1 พันเศษ จากผู้มีสิทธิลงประชามติกว่า 50 ล้านคนทั่วประเทศ ซูเปอร์โพลระบุว่า ร้อยละ 61.5 เห็นชอบ ต่อมา กกต.ประกาศว่า ร้อยละ 61.4 เห็นชอบอ้างอิง https://www.sanook.com/news/2035470/
นอกจากนี้ ในการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีมากกว่า 4 ล้านคน ซูเปอร์โพล สุ่มสำรวจเพียงไม่กี่พันตัวอย่าง ประมาณการล่วงหน้าว่า ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะได้ 1 ล้าน 3 แสนคะแนน และชัชชาติ ท่านก็ได้ประมาณนั้น https://www.dailynews.co.th/news/1073585/
ส่วนกรณีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ ดร.ณัฎฐ์ ยกมาจำนวน 52,287,045 นั้น แต่ซูเปอร์โพลได้ตัวเลขที่รวบรวมจาก ทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครองจำนวน 53,094,778 คน ณ เดือน ก.พ. 2566 มีความแตกต่างกันประมาณร้อยละ 1.5 แต่ไม่ว่าจากฐานใดก็ตาม ถ้าผิดพลาดก็ยังไม่ทราบชัดเจนว่าแหล่งที่มาของใครผิดพลาดแต่คลาดเคลื่อนแตกต่างกันร้อยละ 1.5 น่าจะยอมรับได้ในทางสถิติ
3) การชี้แจงทั้งสองข้อข้างต้นจึงเป็นเรื่องของ วิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แบบที่ ดร.ณัฎฐ์ฯ กล่าวมาแบบเป็นฐานคติส่วนตัว แต่ซูเปอร์โพลเคารพในทุกศาสตร์แม้แต่หมอดู ต่าง ๆ ซูเปอร์โพลจะไม่ดูถูกดูแคลนคนอื่นทำให้เกิดการกินแหนงแคลงใจกัน 4) ตนคิดว่าดร.ณัฎฐ์ เป็นนักกฎหมายมหาชนที่เก่งคนหนึ่ง แต่ถ้าจะก้าวข้ามมาอีกฝั่งหนึ่งของความเชี่ยวชาญด้านวิทยาการข้อมูล (Data Science) ก็น่าจะศึกษาค้นคว้าและมีประสบการณ์ที่สะสมมามากเพียงพอ ทั้งนี้จากวันนี้ถึงวันเลือกตั้งเหลืออีกประมาณ 30 วัน ซูเปอร์โพลจะเติมข้อมูลเชิงประจักษ์เข้าไปใน Math Model และอัพเดตต่อเนื่อง จึงขอให้แต่ละฝ่ายพิจารณา ซูเปอร์โพลมีหลักการการทำงานที่เป็นวิทยาศาสตร์และหลักสถิติศาสตร์ มากกว่า ฐานคติส่วนตัวของคนใดคนหนึ่ง
สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล (SUPER POLL) โทร 02.051.5928 โทร 064.224.2646 www.superpollthailand.net