นายนพดล ปัทมะ ส.ส. พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ใส่ชื่ออดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ในญัตติ และนายรังสิมันต์ โรม ส.ส. พรรคประชาชน ได้ท้าให้ท่านทักษิณ ประกาศผ่านสื่อเลยว่าตัวเองพร้อมถูกตรวจสอบ ซึ่งเรื่องนี้ตนต้องทำความเข้าใจว่าการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจนั้น เป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้าน แต่การบรรจุญัตติและการควบคุมการอภิปรายนั้นต้องดำเนินการตามข้อบังคับของสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ดำเนินการ ประเด็นในเรื่องนี้จึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่านอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร เพราะท่านไม่ได้เป็นผู้ที่สามารถถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญได้ เเละเป็นบุคคลภายนอก
ดังนั้นการที่ประธานสภาจะบรรจุญัตติหรือไม่ รวมทั้งจะอภิปรายพาดพิงท่านทักษิณ ซึ่งเป็นคนนอกจะทำได้แค่ไหนก็เป็นไปตามข้อบังคับและเป็นเรื่องระหว่างประธานสภาและผู้ยื่นญัตติคือ ส.ส. พรรคประชาชน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยและไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ยิ่งกว่านั้น การไปท้าทายให้ท่านทักษิณ ประกาศผ่านสื่อว่าพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ นั้น
ตนเห็นว่าเป็นการเรียกร้องที่ไม่ได้สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและครรลองและน่าจะผิดกาละเทศะด้วยซ้ำไป เชื่อว่าโดยส่วนตัวท่านคงไม่ได้เกรงกลัวการถูกตรวจสอบเพราะคนที่เป็นอดีตนายกฯ และถูกกระทำรัฐประหารและเคยถูกลอบสังหารมาหลายครั้ง คงไม่มีอะไรที่จะต้องหวั่นเกรงหรือกังวลอะไร ดังนั้นขออย่าไปขยายเรื่องนี้ให้เป็นประเด็นดราม่าทางการเมืองจนเกินเลยและกล่าวด้อยค่าสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ออกมายืนยันหลักการที่ถูกต้องว่าเป็นนั่งร้าน เพราะการเมืองใหม่นั้นเราต้องให้เกียรติกันและเคารพสิทธิหน้าที่ของแต่ละฝ่าย
“ตนรอฟังการอภิปรายของฝ่ายค้านว่าจะมีประเด็นอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อที่การรัฐบาลจะนำไปปรับปรุงการทำงานหรือไม่ นายกรัฐมนตรีซึ่งจะถูกอภิปรายคนเดียว เท่าที่ทราบก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวกังวลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะทำงานมาก็เป็นโอกาสดีที่จะได้ชี้แจงให้พี่น้องประชาชนได้ทราบการทำงาน และนโยบายของรัฐบาลที่จะผลักดัน รวมทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนตนยึดหลักเก่งไม่กลัว กลัวช้า และกรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียว ไม่ต้องเร่ง คุณโรมยังมีเวลาอีกมากในเวทีการเมือง”