วันที่ 4 ก.พ. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์สึนามิบ้านน้ำเค็ม จังหวัดพังงา ผ่านระบบ Video Conference ณ ตึกภักดีบดินทร์ โดยระหว่างที่เดินเข้าตึก นายกรัฐมนตรีได้โบกมือทักทายสื่อมวลชน แต่ไม่ได้มีการสัมภาษณ์แต่อย่างใด 

โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในการเปิดงานว่า ว ตนยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสมาเป็นประธานพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์สึนามิ ตนจำได้ว่าเคยได้ไปเยี่ยมเยียนสถานที่จริงมาแล้ว จะได้ให้แนวทางในการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั้งสำเร็จในวันนี้ ต้องขอขอบคุณทุกคน รัฐบาลมีนโยบายสำคัญในการบริหารประเทศ ประการหนึ่งคือ ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง สร้างโอกาสความเท่าเทียมและความเป็นธรรม สร้างความเสมอภาคทางสังคมให้เกิดขึ้นให้ได้เร็ว เหตุการณ์ดังกล่าวนี้คงไม่ใช่เฉพาะสึนามิอย่างเดียว แต่รวมถึงภัยพิบัติหลายประการด้วยกัน เหตุการณ์ต่างๆ ก่อให้เกิดความเสียหายและความสูญเสียให้กับประชาชน ทั้งกลุ่มเชื้อชาติใด หรือจะอาศัยอยู่ในภูมิภาคใดก็ตาม ชาวไทยเผชิญหน้ากับภัยคุกคามเหล่านี้ อย่างเห็นได้ชัดว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้น จะต้องคุยกันต่อไปว่าจะต้องทำกันอย่างไรต่อไป รัฐบาลได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในกรณีบาดเจ็บ สูญเสียต่างๆ รัฐบาลจะพยายามเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขฟื้นฟูและเยียวยา สถานการณ์ความเดือดร้อน เสียหายต่างๆ เพื่อบรรเทา บรรลุหรือทุเลาให้ดีขึ้นเร็วที่สุด นี่คือสิ่งที่เกิดมาแล้ว 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนภัยพิบัติ 26 ธ.ค. 2547 ผ่านมาแล้ว 18 ปี ภาพเหล่านั้นตราตรึงอยู่ในจิตใจทุกคน ตนก็ยังจำได้ตอนเป็นทหารอยู่ ใช้กำลังทหารเข้าไปช่วย ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ตำรวจ ทหารลงไปช่วยดูแล และผลกระทบที่เกิดขึ้นมากที่สุด ผู้เสียชีวิตผู้บาดเจ็บ ผู้ที่สูญเสียทรัพย์สิน บ้านเรือนต่างๆ ซึ่งภาพเหล่านี้อยู่ในหัวใจทุกคน ซึ่งทุกคนต้องพยายามป้องกันแก้ไขให้ได้มากที่สุด การสูญเสียบุคคลในครอบครัว ซึ่งไม่สามารถที่จะเรียกกลับมาได้ บุคคลที่เป็นคนที่เรารู้จัก จะเห็นได้ว่ามีการจัดกิจกรรมเหตุการณ์ต่างๆ ทุกปีในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ในส่วนทางชุมชนแห่งบ้านน้ำเค็ม รัฐบาลมอบหมายจัดหางบประมาณให้กับกระทรวงวัฒนธรรม จะสร้างพิพิธภัณฑ์สึนามิบ้านน้ำเค็ม เพราะความเสียหายเหล่านี้ส่งผลกระทบด้านจิตใจ ยังประเมินค่าไม่ได้ คงไม่ใช่เฉพาะคนในพื้นที่ ตนเองก็สะเทือนใจเหมือนกัน ทุกครั้งที่มีการบาดเจ็บ สูญเสียตนเสียใจด้วยทุกครั้ง เพราะถือว่าคือคนไทยด้วยกัน 

นายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ที่จะต้องดูแลตรงนี้ให้ทุกคนปลอดภัย และได้รับผลกระทบที่น้อยที่สุด สร้างความเสียหายทางด้านจิตใจประเมินค่าไม่ได้ ไม่สามารถเรียกชีวิตกับมาได้ แต่จำเป็นต้องดูแลอย่างไร และอยู่อย่างไรต่อไป เพื่อจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก โดยเราไม่สามารถห้ามธรรมชาติได้ บางอย่างป้องกันได้ บางอย่างแก้ไขได้ แต่บางอย่างเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างขนาดใหญ่ วันนี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ เช่น ภูเขาไฟระเบิดใต้ทะเล ประเทศเขารับผลกระทบอาจจะแรงกว่าเราด้วยซ้ำ ดังนั้นจะทำอย่างไรให้เรามีความพร้อมในการที่จะทำให้ทุกอย่าง ไม่เกิดขึ้นอีก หรือบรรเทาความเสียหายให้ลดลงมากที่สุด 

พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุว่า การก่อสร้างพิพิธภัณฑ์สึนามิบ้านน้ำเค็ม ก็เป็นไปตามที่ได้เสนอมา และเสร็จสมบูรณ์สวยงาม พร้อมเปิดให้ใช้บริการ เพราะฉะนั้นรัฐบาลในประเทศมีความมุ่งหวัง ให้หน่วยงานท้องถิ่นและเอกชนโดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ เพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยว เพิ่มโอกาสให้กับท้องถิ่น คุณค่าและประโยชน์ที่จะได้รับจากพิพิธภัณฑ์ แบ่งได้เป็น 2 ส่วน คือ ด้านสังคม คืออนุสรณ์มีความทรงจำที่จะเล่าเรื่องราวต่างๆ จากเหตุการณ์ภัยพิบัติในครั้งนี้ที่เกิดขึ้น เป็นแหล่งเรียนรู้ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตชุมชน และข้อมูลต่างๆ หากไม่ทำตรงนี้ไว้ ไม่บันทึกตรงนี้ไว้ ไม่มีอนุสรณ์สถานเหล่านี้ไว้ก็จะลืมไปทั้งหมด แล้วจะไม่ระวังตัว สิ่งเหล่านี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการเตือนใจให้ทุกคนนั้นระมัดระวังและเตรียมความพร้อม ว่าจะสามารถอยู่กับธรรมชาติอย่างไรต่อไปในอนาคตประวัติศาสตร์เหล่านี้จะถูกบันทึกจากรุ่นสู่รุ่นไว้เป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ไม่ให้สูญหาย เนื่องจากที่ผ่านมาผ่านไปแล้วก็ลืม เอกสารบันทึกก็ไม่ได้จด วันนี้ต้องบันทึกว่าทุกอย่างเป็นประวัติศาสตร์ที่ดีและไม่ดีประวัติศาสตร์มีประโยชน์ทั้งสิ้น ดีก็ทำก็ศึกษาไม่ดีก็อย่าทำให้เกิดขึ้นอีกนั่นคือคุณค่าของประวัติศาสตร์ เราไม่ต้องการให้สูญหายไป 

ในด้านเศรษฐกิจก็รู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ประเทศไทยเรามีอยู่คือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อัตลักษณ์ความเป็นไทย อาหารไทย ธรรมชาติสวยงาม บุคลิกความเป็นคนไทย อารีโอบอ้อม นี่คือ Soft Power คือพลังสำคัญของประเทศไทยที่จะขับเคลื่อนให้เดินไปข้างหน้าด้วยการสื่อสาร รักษาต่อยอด ตามพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ที่จะต้องทำให้สิ่งเหล่านี้มีมูลค่าขึ้นมา เพื่อให้ประชาชนนั้นอยู่ดีกินดีเกิดขึ้น สามารถยึดโยงทุกเรื่องได้หากรู้จักคิดรู้จักพัฒนาเอามาต่อยอดซึ่งกันและกัน แล้วจะเกิดมูลค่าขึ้นมาทันที อยากให้ทุกคนได้รวมพลังกัน ร่วมกันคิดร่วมกันทำทำอย่างไรบ้างเมืองของเรา ชุมชนของเรา จะมีความเข้มแข็งความก้าวหน้า อย่างยั่งยืนตามวิสัยทัศน์คือความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน ฉะนั้น ต้องช่วยกันทุกคนนายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะดูแลและพร้อมที่จะทำสิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้น และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยความรักความห่วงใย ไม่ว่าจะเด็กเยาวชนคนรุ่นสูงวัยซึ่งกระบวนก็ว่าจะมีปัญหาขึ้นเรื่อยๆ

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ต้องติดตามว่าโลกเปลี่ยนแปลงอะไรไปมากแล้ว คงไม่ใช่เรื่องภัยธรรมชาติอย่างเดียว แต่อยากให้ทุกคนได้ติดตามว่าสถานการณ์โลกของเรามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างในภูมิภาค เป็นสิ่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่จะต้องเรียนรู้และพูดคุยในสาระที่เป็นประโยชน์และจะปรับตัวอย่างไร กลับแนวคิดปรับวิถีปฏิบัติของรัฐบาล มีมาตรการพร้อมจะดูแลและส่งเสริมแต่ทุกอย่าง คิดมาจากในพื้นที่จากชุมชน และจากประชาชน จะตรงความต้องการมากที่สุด เพื่อว่าจะสั่งแผนงานโครงการงบประมาณลงไปได้เพียงพอ เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันคิด เรามีโลกอยู่ใบเดียวต้องช่วยกันรักษา ทุกคนเป็นกำลังสำคัญของประชาคมโลกในวันนี้ เพราะเราคือหนึ่งในคนหลายพันหลายหมื่น หลายร้อยประเทศในโลก ทุกคนมีส่วนร่วมทั้งหมดในการรักษาแผ่นดิน พื้นน้ำ อากาศ ต้องช่วยกันแนะนำการเตรียมความพร้อม ต้องเตรียมตัวโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในปัจจุบัน หากเรารู้อย่างนี้กันจะเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ใช่ถึงเวลาแล้วปุ๊บปั๊บแล้วขยับทีเดียวไปไม่ได้ ไปไม่ทัน

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ชีวิตเรียกกลับมาไม่ได้ แต่อย่างอื่นเรียกกับมาได้ ต้องฝากเตือนตรงนี้เอาไว้ช่วยกันคิดช่วยกันทำ พิพิธภัณฑ์ไม่ใช่แค่ความสวยงามแต่สิ่งที่ได้มาคือประวัติศาสตร์และการเรียนรู้ และเป็นการเรียนรู้ด้วยชีวิต ด้วยความสูญเสียมากมาย สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงให้ความห่วงใยและให้แนวความปฏิบัติที่ดี อยากให้มีการแจ้งเตือนกันอยู่เสมอคงไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียว วันนี้จะเห็นว่าภัยพิบัติเกิดขึ้นหลายอย่างด้วยกันไม่ว่าจะโลกร้อน PM 2.5 ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยน้ำมือมนุษย์ทั้งสิ้น และทำให้เกิดปัญหาเกิดขึ้นกับธรรมชาติ ซึ่งมีผลกระทบกับคนอื่นอีกด้วย ฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกัน รวมพลังรักสามัคคีแบ่งปัน เผื่อแผ่ ทั้งทุกข์และสุขไปด้วยกัน นำพาประเทศไทยให้หลุดพ้นจากอันตรายเหล่านี้ได้ในที่สุด จะทำอย่างไรให้มีคติเตือนใจตัวเอง และจะทำอย่างไรต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้คงไม่ได้เรื่องนี้อย่างเดียว ทั้งโรคระบาดโควิด-19 เรื่องรายได้ อาชีพ ความยากจน ตนยืนยันว่าตราบใดที่ยังมีหน้าที่ตรงนี้จะพยายามทำให้เต็มที่ ซึ่งแต่ละอย่างกำลังดำเนินการไปตามขั้นตอนต่างๆ จำเป็นต้องมีขั้นตอน ทางกฎหมาย แต่ก็มีบางอย่างที่จะทำให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด 

“ขอชมเชยศิลปินรุ่นกลาง รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ขอชื่นชมเพลงไพเราะดี หลายคนมีอนาคตในวันข้างหน้า เสียงใส โดยเฉพาะโนราห์พื้นบ้าน ขอบคุณนักแสดงนักดนตรีกลอนต่างๆ และขอขอบคุณทุกภาคส่วนอีกครั้ง โดยเฉพาะประชาชนบ้านน้ำเค็ม ที่ช่วยการสนับสนุนให้การก่อสร้างเกิดขึ้นเป็นไปอย่างเรียบร้อยสมบูรณ์ จนถึงวันเปิดทำการในวันนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะช่วยกันดูแลรักษาและบริหารจัดการให้พิพิธภัณฑ์อย่างนี้ให้ความมั่นคง สวยงาม เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของจังหวัดพังงา และหากมีโอกาสตนจะไปเยือนอีกครั้งหนึ่ง”

พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า มีหลายอย่างที่มีความก้าวหน้า แต่อาจจะไม่ชัดเจนขึ้นแต่ในอนาคตรัฐบาลพยายามทำโครงสร้างต่างๆให้ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะโควิด-19 เราจะทำอะไรได้ดีขึ้นกว่าเดิม ให้หมดไปแล้ว ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร ขอให้ทุกคนปลอดภัยจากโควิด -19 ร่วมมือการฉีดวัคซีน และปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เพื่อชีวิตของพวกเราเอง ลูกหลาน พ่อแม่ ขอให้ทุกคนระมัดระวังมากที่สุด เราจะแก้ไขปัญหาทุกปัญหาด้วยความร่วมมือซึ่งกันและกัน ด้วยการเอาหลักที่ถูกต้องมาหารือกัน และหาหนทางให้ดีที่สุด ในการแก้ไขแต่ละปัญหาให้หมดสิ้นไป ไม่มีปัญหาใดๆ แก้ให้เสร็จในครั้งเดียว เป็นไปไม่ได้ เพราะเราอยู่ด้วยคนจำนวนมาก หลายอาชีพหลายรายได้ หลายระดับ รัฐบาลและตน พยายามที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ได้

“โดยจะไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง ต่างคนต่างไม่ทิ้งซึ่งกันและกัน รัฐบาลไม่ทิ้งท่าน ท่านก็ต้องไม่ทิ้งญาติของท่าน นั่นคือสังคมของคนไทย ความรักความสามัคคีเป็นอันดับแรกที่เราต้องสร้างให้เร็วที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ