วันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า รัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรม มีนโยบายส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐาน การผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ที่สำคัญของโลก รวมทั้งส่งเสริมให้มีโครงสร้างพื้นฐานด้านการตรวจสอบรับรองที่มีความพร้อม เช่น ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) และส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยก็ยังประสบปัญหาด้านการส่งออกไปยังประเทศอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประเทศเวียดนามได้ประกาศใช้มาตรฐาน Euro 5 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565 เป็นต้นไป ส่งผลกระทบต่อการส่งออกยานยนต์ของไทยโดยตรง
เลขาธิการ สมอ.ชี้ว่า เวียดนามอนุญาตให้ผู้ประกอบการรถยนต์ที่ผลิตและประกอบในประเทศและได้รับใบอนุญาตก่อนวันที่มาตรฐาน Euro 5 จะมีผลบังคับใช้ สามารถผลิตรถยนต์ตามมาตรฐานเดิม (Euro 4) ได้ต่อเนื่องจนกระทั่งใบอนุญาตดังกล่าวหมดอายุ แต่หากเป็นผู้นำเข้าจะต้องขออนุญาตตามมาตรฐานใหม่คือ Euro 5 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565 ถึงแม้ว่าใบอนุญาตจะยังไม่หมดอายุก็ตาม
ทั้งนี้ สมอ. ในฐานะหน่วยงานมาตรฐานแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้แทนประเทศไทยในคณะกรรมการว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า (Committee on TBT) ภายใต้ องค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) เห็นว่า การปฏิบัติดังกล่าวกับผู้ประกอบการรถยนต์ที่ผลิตในประเทศและผู้นำเข้าไม่เท่าเทียมกัน
สมอ.จึงเตรียมเสนอข้อเรียกร้องให้ทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบหรือดำเนินการแก้ไขกฎระเบียบให้เป็นไปตามหลักปฏิบัติของ WTO และเตรียมหยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นเป็นข้อกังวลทางการค้าเสนอในการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า ครั้งที่ 85 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 พ.ย.2564 ณ กรุงเจนีวา ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์
ก่อนหน้านี้ สินค้าส่งออกจากไทยอย่างยารักษาโรค น้ำตาล และสุกรเพิ่งได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าของเวียดนามเช่นเดียวกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง;