วันที่ 2 เม.ย. นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่อาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ลงนาม คำสั่งคณะกรรมการโรคติตต่อจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม กรณีการคัดกรองชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และคนไทยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้มีเนื้อหาสาระสำคัญหลักๆ อยู่ 2 ข้อ เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จากผู้ที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้ว่าฯ ได้ลงนามในหนังสือเมื่อช่วงค่ำของวานนี้ (1 เม.ย.) และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันนี้ (2 เม.ย.)
เนื้อหาหลักในส่วนของชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 2 เม.ย. 2563 นั้น
"ให้ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในทุกช่องทางต้องถูกคุมตัวไว้สังเกตอาการ ณ สถานที่ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่กำหนด จำนวน 14 วันเพื่อตรวจและทำการสอบสวนทางการแพทย์ว่าพ้นระยะติดต่อของโรคโควิด-19 หรือสิ้นสุดเหตุอันควรสงสัย เว้นแต่ชาวต่างชาตินั้นจะมีที่พักอาศัยเป็นของตนเอง โดยให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อเป็นผู้กำกับการปฏิบัติตามคำสังนี้"
ส่วนเนื้อหาเกี่ยวกับคนไทย ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ จากกรุงเทพมหานครหรือบริมณฑล จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดภูเก็ต ที่เดินทางมาถึงพื้นพี่จังหวัดเชียงใหม่ ต้องกักตนเองในที่พำนักหรือที่พักอย่างเคร่งครัดเป็นระยะเวลา 14 วัน และให้ปฏิบัติตามคำแนะนำมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด โดยให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยปฏิบัติการโรคติดต่อที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่จัดตั้งขึ้น หรืออาสาสมัครที่ปฏิบัติงานให้แก่ทางราชการ ตรวจสอบการเฝ้าระวังการกักตนเอง และให้คำแนะนำวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องได้
ทั้งนี้การดำเนินการตามคำสั่งนี้เป็นไปตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาทางปกครอง ตามมาตรา 16 ของพระราชกำหนดดังกล่าว ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 หรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558
ทั้งนี้มีรายงานว่าทางจังหวัดได้จัดเตรียมโรงแรมไว้ 1-2 แห่ง สำหรับเป็นสถานที่กักตัวของชาวต่างชาติ 14 วันที่เดินทางเข้ามาในห้วงเวลาที่มีการประกาศ โดยแต่ละคนก็จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองตามสมควร ทั้งเรื่องของที่พัก อาหาร และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้น ถือเป็นมาตรการเข้มที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากที่จังหวัดเชียงใหม่ยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดข้อมูลวันที่ 1 เม.ย.มีผู้ป่วยสะสม 34 ราย รักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 5 ราย ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง 680 รายกลับบ้านแล้ว 621 ราย เหลือที่อยู่ดูอาการในโรงพยาบาลอีก 59 ราย