บรรยากาศที่จุดชมวิว ทางขึ้นดอยสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มองเห็นหมอกควันหนาปกคลุมเหนือท้องฟ้าตัวเมืองเชียงใหม่ จนทำให้เมืองทั้งเมืองตกอยู่ในหมอกควัน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาแวะที่จุดชมวิวเพื่อชมทัศนียภาพของตัวเมืองเชียงใหม่และตั้งใจจะเก็บภาพความสวยงามของเมืองต่างผิดหวัง เพราะหมอกควันที่ปกคลุมท้องฟ้าทำให้ไม่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองได้อย่างชัดเจน
สภาพอากาศที่ปกคลุมด้วยฝุ่นควันพิษ ทำให้ชาวเชียงใหม่พากันสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นควัน โดยเฉพาะคนที่ต้องขี่รถจักรยานยนต์ผู้ได้รับผลกระทบจากฝุ่นควันโดยตรง
ล่าสุดค่าฝุ่นที่มีขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศูนย์ราชการ จ.เชียงใหม่ ณ เวลา 09.00 น. วันนี้ (12 มี.ค.) พุ่งสูงกว่า 105 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่นเดียวกันที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศที่ตั้งอยู่กลางเมืองเชียงใหม่ใน ต.ศรีภูมิ อ.เมือง ก็มีค่า PM2.5 สูงถึง 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินมาตรการและมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ขณะที่ดาวเทียมระบบ VIIRS ตรวจพบจุดความร้อน Hotspot ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ณ วันที่ 12 มี.ค 62 เวลา 01.30 น. รวมทั้งสิ้นจำนวน 824 จุด โดย จ.น่าน พบจุดความร้อนจำนวน 185 จุด ,ลำปาง จำนวน 152 จุด ,พะเยา จำนวน 124 จุด ,เชียงใหม่ จำนวน 121 จุด ,แพร่ จำนวน 107 จุด ,แม่ฮ่องสอนจำนวน 64 จุด ,เชียงราย จำนวน 29 จุด ,ตาก จำนวน 27 จุด และลำพูนจำนวน 15 จุด โดยคาดว่าทั้งหมดเกิดจากไฟป่า ที่คาดว่ามาจากการเข้าไปหาของป่าของชาวบ้านเป็นส่วนใหญ่
ด้านนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ได้เรียกประชุมนายอำเภอทั้ง 25 อำเภอ พร้อมสั่งการให้ปิดป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ในพื้นที่ทุกแห่ง ห้ามชาวบ้านเข้าไปหาของป่าอย่างเด็ดขาด พร้อมให้นายอำเภอจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีอาชีพหาของป่า และทำกินในเขตป่า หลังค่าฝุ่นควันพิษกลับมาวิกฤตอีกครั้งตั้งแต่วานนี้ (11 มี.ค.) ส่วนเว็บไซต์ Airvisual จัดอันดับคุณภาพอากาศในเมืองต่างๆ ทั่วโลก พบว่าคุณภาพอากาศในช่วงหนึ่งของ จ.เชียงใหม่อยู่ในขั้นวิกฤตติดอันดับ 1 ของโลกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 แล้ว