นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปไทย ตัวแทนจากผู้ผลิตกะทิมะพร้าว ถึงแนวทางดำเนินการหลังองค์กรมนุษย์เพื่อการปฏิบัติต่อสัตว์อย่างมีจริยธรรม (PETA) หรือ พีต้า กล่าวอ้างว่าในประเทศไทยบังคับใช้แรงงานลิงกังเก็บมะพร้าว

เบื้องต้นที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า ได้ข้อสรุปว่า แนวทางที่จะดำเนินต่อไปในอนาคตหลักๆ จะมี 3 แนวทาง คือ เอกชน หรือโรงงานผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวได้ให้คำสัญญาว่า การผลิตถัดจากนี้ไปจะมีการกำหนดมาตรการที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์นั้น ผลิตจากมะพร้าวที่มาจากสวนใด มีการใช้แรงงานลิงหรือไม่ ด้วยการใส่รหัสลงบนผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้เพื่อให้ผู้นำเข้าและผู้กระจายสินค้า รวมถึงตัวแทนห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์มะพร้าวของไทย ได้รับทราบกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำว่ามีกระบวนการอย่างไร จะมีการเชิญผู้แทนเอกอัคราชฑูตต่างๆ พร้อมทั้งสื่อมวลชน ภาคเอกชน องค์กรพิทักษ์สัตว์ เข้ามาร่วมตรวจสอบ และเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย จะให้ผู้นำเข้าต่างประเทศดูกระบวนการผลิตทั้งหมด ซึ่งในส่วนของทีมไทยแลนด์ที่ประจำอยู่ในต่างประเทศจะได้ช่วยทำคำชี้แจงกับผู้นำเข้าเพื่อทำความเข้าใจต่อไป

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังห้างสรรพสินค้าในอังกฤษถอดสินค้ากะทิจากไทยออกจากชั้นจำหน่าย ไม่ใช่การกีดกันทางการค้าตามกรอบกติกาการค้าสากล เนื่องจากเป็นมาตรการของทางภาคเอกชนที่ดำเนินการกันเอง ไม่ใช่เกิดทางภาครัฐ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ผู้ส่งออกเร่งแจงคู่ค้า หลังแบนกะทิไทย เหตุใช้แรงงานลิง
• พาณิชย์สั่งชี้แจง หลังห้างอังกฤษแบนกะทิไทย ย้ำใช้ 'ลิง' เป็นวิถีชาวบ้าน
• ซูเปอร์มาร์เก็ตอังกฤษเลิกขายน้ำมะพร้าวไทย เพราะใช้แรงงานลิง