วันที่ 13 พ.ค. 2565 ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร สกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (อิสระ) หมายเลข 3 เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ โดยมีประชาชนจากหลายเขตในกรุงเทพฯ ทยอยเข้าสู่พื้นที่จนหนาแน่นตั้งแต่ก่อนเริ่มการปราศรัย ทั้งนี้มีผู้สนับสนุนร่วมรับฟังการปราศรัยด้วย คือ ณัฐพล ทีปสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอดีตแกนนำ กปปส. ขณะที่ กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) จำนวนหลายราย สวมใส่เสื้อสีเหลือง ร่วมกันยืนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ก่อนทยอยเข้าสู่พื้นที่งานปราศรัย เช่นเดียวกับ กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันฯ ที่สวมใส่เสื้อช็อป หมวกที่มีตราสัญลักษณ์ เดินเข้าร่วมงานด้วย

เวลา18.10 น. งานปราศรัยเริ่มต้นขึ้น โดยมี เกลือ-กิตติ เชี่ยววงศ์กุล ดารานักแสดงและพิธีกรจากช่อง One 31 ได้ทำหน้าที่พิธีกร กล่าวเปิดตัว 'ธีทีม' ที่ปรึกษาในการขับเคลื่อนนโยบายในด้านต่างๆ ประกอบด้วย 1) จิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์ ทีมที่ปรึกษาด้านไอทีและดิจิทัล  2) ฝันดี จรรยาธนากร ทีมที่ปรึกษาด้านป้องกันและบรรเทาาสาธารณภัย  3) นริศรา ลิ้มธนากุล ทีมที่ปรึกษาด้านการจราจรและขนส่งสาธารณะ 4) กฤษณะ แก้วธำรงค์ ทีมที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว  5) เจตน์ โศภิษฐ์พงศธร ทีมที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ศิลปะ และวัฒนธรรม และ6) ณัฐรดา เลขะธนชลก์ ทีมที่ปรึกษาด้านการศึกษาณัฐรดา เลขะธนชลก์ ทีมที่ปรึกษาด้านการศึกษา

'เจตน์' อดีตกุนซือ 'สุขุมพันธ์' เปิดตัวช่วยดันนโยบายสิ่งแวดล้อม

เจตน์ โศภิษฐ์พงศธร อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอดีตที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ในสมัยของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เปิดตัวเป็นหนึ่งใน 'ธีทีม' ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ศิลปะ และวัฒนธรรม โดย เจตน์ เชื่อมั่นว่า สกลธี เป็นคนขยัน มีคุณภาพ และเข้าสู่บทบาทของรองผู้ว่าฯ กทม. ในสมัยของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง มีลักษณะการทำงานที่ตอบรับต่อปัญหาทันที เรียกได้ว่านโยบาย 'ทำทันธี' เป็นผลงานที่ติดตัวมาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว 

"กรุงเทพฯ จะดีกว่านี้ได้ ถ้าตัดคำว่ารองฯ ออกไปให้เหลือแต่คำว่าผู้ว่าฯ สกลธี" เจตน์ กล่าว

เจตน์ ย้ำว่า สกลธี เป็นนักการเมืองมีอุดมการณ์ศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อยู่ในวัยที่เหมาะกับการมาบริหารบ้านเมือง อีกทั้งประสบการณ์ของการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องมาตลอด 4 ปี จะทำให้เขาพร้อมทำงานตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้รับตำแหน่ง รวมทั้งความเป็นอิสระจากทุกพรรคการเมือง จะเพิ่มศักยภาพในการทำงานตอบแทนชาวกรุงเทพฯ ทุกคน

'ครูจอย-ณัฐรดา' ดันนโยบายการศึกษา

ณัฐรดา เลขะธนชลก์ ผู้ก่อตั้ง EdWINGS Education ทีมที่ปรึกษาด้านการศึกษา เชื่อมั่นในความสามารถ เอาจริงเอาจังกับการทำงานเสมอมา ทั้งยังเชื่อว่า สกลธี จะสามารถเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ในการเป็นผู้ว่าฯ กทม. ที่สามารถทำกรุงเทพฯ ให้ดีกว่านี้ได้ อย่างแน่นอน

ณัฐรดา เผยว่า จากการสนทนากับ สกลธี พบว่าโรงเรียนในกรุงเทพฯ เป็นเพียงทางผ่าน ไม่เอื้อต่อการศึกษานอกห้องเรียน ครูที่มีความสามารถกลับไร้ที่ยืน ขณะที่การศึกษาในต่างจังหวัดถูกด้อยค่า แม้แต่นักเรียนในกรุงเทพฯ กว่า 437 โรงเรียน ก็มองไม่เห็นอนาคตและความฝัน เพราะขาดการศึกษาที่ครอบคลุมหลากหลาย และตอบโจทย์ทางวิชาชีพ เหตุใดโรงเรียนดีๆ ที่ใกล้บ้านจึงไม่เกิดขึ้นสักที

"การศึกษาวันนี้รอไม่ได้แล้ว ถ้าหยุดคือถอยหลัง 1 ปีครึ่งแล้วที่เด็กๆ ปัญหาด้านการศึกษา วันนี้ขอให้ทุกคนออกมา เอาการศึกษาเป็นนโยบายที่ทุกคนนำเข้าไปอยู่ในจิตใจ ก่อนที่จะกาเบอร์อะไรก็ตาม ขอให้ฟังสิ่งที่ สกลธี เบอร์ 3 ได้พูดในวันนี้" ณัฐรดา กล่าว

ณัฐรดา กล่าวว่า หากเลือก สกลธี จะได้ 'ทีมธี' เข้าไปช่วยให้ทุกมุมเมืองของประเทศไทย ได้เห็นว่า ของฟรี ของดี มีคุณภาพ เกิดขึ้นได้ที่โรงเรียนของกรุงเทพมหานคร ด้วยผู้ว่าฯ ชื่อ สกลธี เด็ก 2 แสนคนในกรุงเทพฯ ต้องมีโรงเรียนที่ดีขึ้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และคืนครูที่ดีมีคุณภาพเข้าสู่ระบบการศึกษาให้ได้ ระบบใดๆ ของประเทศก็ไม่สามารถลิดรอนความหวังของทุกครอบครัวไปได้

'เหรียญทอง' ปลุกคนกรุงหนุนกา 'สกลธี' เป็นคนดี ลั่นไม่กลัวเหี้ยครองเมือง

จากนั้น นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ขึ้นเวทีปราศรัยสนับสนุน สกลธี โดยกล่าวว่า สกลธี ไม่ได้มาเพื่อแพ้ ไม่ได้มาเพื่อลองงาน แต่มาเพื่อเป็นผู้ว่าฯ กทม. ตนไม่เข้าใจเรื่องการโหวตเชิงยุทธศาสตร์ ถ้าไม่อยากให้เสียงแตก ก็ต้องเทคะแนนให้คนที่มีศักยภาพ อีกทั้ง สกลธี กับตน ถือเป็นเพื่อนร่วมรบกันมา ต้องเสี่ยงคุกตาราง แล้วจะลืมเขาลงได้อย่างไร 

นพ.เหรียญทอง ระบุว่า สกลธี ไม่ได้มาคนเดียว แต่ยังมีแนวร่วมภาคประชาชนที่มีศักยภาพ ตนก็คือหนึ่งในนั้นเช่นกัน หาก สกลธี ได้รับตำแหน่งแล้ว และมีสิ่งใดที่ตนสามารถช่วยได้ ตนพร้อมจะช่วยทำโดยไม่ต้องร้องขอ

"ผมไม่กลัวคะแนนเสียงแตก ผมไม่กลัวเหี้ยครองเมือง แต่ถ้าท่านกลัว เทคะแนนให้เบอร์ 3 เท่านั้น ผมไม่ลืมเพื่อนร่วมรบ ผู้สมัครคนอื่นเป็นอย่างไร ผมไม่พูดถึง แต่ถ้าเราเลือกได้คนเดียวเราต้องเลือกคนที่ดีที่สุด"

นพ.เหรียญทอง ย้ำว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นั้น การเมืองเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญคือการพัฒนาบ้านเมือง แม้จะมีอุดมการณ์ชัดเจนในเรื่อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่ไม่ได้ปิดรับฟังความคิดเห็นหลากหลายของชาวกรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประชาชน ตนไม่อยากให้คนกรุงเทพฯ เสียดายโอกาสที่จะได้ผู้ว่าฯ คนนี้ เพราะสกลธีกลับมาแล้วไปต่อได้ทันที และทำได้ดีกว่าเดิม

"หลายคนเหม็นหน้าผมด้วยซ้ำ ที่ออกมาสนับสนุนสกลธี แต่ผมส่งเสริมคนดีให้ปกครองบ้านเมือง พัฒนาบ้านเมือง ผมไม่อยากให้คนกรุงเทพฯ เสียโอกาสนี้... หากกลัวเสียงแตก เทคะแนนให้คนอื่นยุติธรรมแล้วหรือ" นพ.เหรียญทอง กล่าว

'เกลือ' เปิดใจเหตุสนับสนุน ‘สกลธี’ ปกป้องคนที่เทิดทูน

ด้าน เกลือ-กิตติ เชี่ยววงศ์กุล พิธีกรภายในงาน ระบุถึงความรู้สึกเบื้องหลังที่ได้แสดงตัวสนับสนุน สกลธี ว่า ก่อนหน้านี้คิดว่าจะไม่แสดงตัวเรื่องการเมืองแล้ว แต่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สกลธี เป็นผู้สมัครคนเดียวที่ปกป้องศักดิ์ศรีของคนที่ตนรักและเทิดทูน หลังจากนั้นความลังเลจึงหายไป

"ผมเข้าใจความลังเลของพวกท่านดี และผมรู้ว่าความลังเลมันจะส่งผลอย่างไรต่อกรุงเทพฯของเรา ทุกวันนี้หมดเวลาลังเลแล้วและขอทุกคนเทคะแนนให้สกลธี" กิตติ กล่าว

'แอดมินเจน' เพจเชียร์ลุง เชียร์เลือก 'สกลธี'

วริษนันท์ ศรีบวรธนกิตติ์ หรือ แอดมินเจน เจ้าของเพจ 'เชียร์ลุง' กล่าวว่า ที่ผ่านมา หลายคนอาจ มีปัญหากับการเลือกระหว่างเบอร์ 3 เบอร์ 4 หรือเบอร์ 6 แต่หลังจากหารือกับเครือข่ายเพจต่างๆ ที่มีแนวร่วมเดียวกัน ก็ได้ตกผลึกว่า วันนี้ที่เราเลือกเบอร์ 3 เพราะนโยบายต่างๆ ของสกลธีทำได้ทันที และผลงานสมัยเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. ก็ประจักษ์ชัด ว่าเป็นผู้ที่เอาใจใส่ต่อพี่น้องประชาชน วันนี้จึงต้องสนับสนุน สกลธี ให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ให้ได้

แอดมินเจน มองว่า สกลธี อยู่ในวัยที่เป็นรอยต่อระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ สามารถเชื่อมคนทุกรุ่นให้เป็นปึกแผ่นได้ อีกทั้ง สกลธี มีความรู้เกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ในกรุงเทพฯ เป็นอย่างดี และพร้อมจะผลักดันทางแก้ไขต่างๆ เมื่อได้รับตำแหน่งผู้ว่าฯ แล้ว โดยเฉพาะการทลายข้อจำกัดของงบประมาณส่วนต่างๆ

"กรุงเทพฯ ดีกว่านี้ได้ ถ้าเราเข้าคูหาแล้วกาเบอร์ 3" แอดมินเจน กล่าว