ที่รัฐสภา มีการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาญัตติขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ตามมาตรา 165 ของรัฐธรรมนูญ เป็นวันที่ 2 โดยมีพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา เป็นประธานในการประชุม ทั้งนี้ จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คือคู่กรณีกับผู้ชุมนุมโดยตรง แต่ญัตติที่ พล.อ.ประยุทธ์เสนอต่อรัฐสภานั้นกลับเต็มไปด้วยถ้อยคำที่กล่าวหาผู้ชุมนุม ไม่ได้เอ่ยถึงข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม ญัตติของรัฐบาลจึงไม่ได้แสดงออกถึงความจริงใจในการแก้ปัญหาประเทศร่วมกัน ทั้งนี้ การจะตั้งกรรมการขึ้นมาอีกนั้นไม่ใช่ทางออกของประเทศ ถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเลิกหลบอยู่หลังคนอื่น ต้องยืดอกออกมารับผิดชอบด้วยตัวเอง
จิราพร กล่าวอีกว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังสงสัยว่าทำผิดอะไรถึงต้องลาออกนั้น เพราะ
การที่ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าจะแก้รัฐธรรมนูญให้เสร็จ 3 วาระรวดภายในเดือน ธ.ค.นั้น ตนไม่เชื่อ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยทำจริงสักอย่าง การกระทำกับคำพูดสวนทางกันมาตลอด อย่างไรก็ตาม การรับฟังครั้งนี้เหมือนจงใจเติมเชื้อไฟให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น สุ่มเสี่ยงว่าจะมีการสลายการชุมนุมอีกครั้งหรือไม่ ดังนั้น ขอถามนายกฯ ว่า จะมีนโยบายใช้อาวุธปราบปรามนักเรียน นิสิต นักศึกษาหรือไม่ ขอให้ยืนยันไว้ที่นี่เพื่อเป็นสัญญาประชาคม วันนี้นายกฯ เรียกร้องให้คนทั้งประเทศเสียสละเพื่อท่านเพียงคนเดียวไม่ได้ แต่ท่านควรเสียสละลาออกเพื่อให้กระบวนการแก้ปัญหาจะได้เดินหน้าได้ทันที เพราะความมั่นคงของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่ความมั่นคงของคนทั้งประเทศ