ไม่พบผลการค้นหา
‘อนุสรณ์’ ขอบคุณผลโพลหนุนเพื่อไทยทุกด้าน สะท้อนประชาชนต้องการความหวังหลังจมทุกข์ 8 ปี พร้อมเดินหน้านำเสนอนโยบาย พาประเทศออกจากวิกฤต

อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นิด้าโพล เผยผลสำรวจประชาชน เรื่อง ‘ศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 1’ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566 พบว่าประชาชนให้ความสนใจและสนับสนุนพรรคเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคเป็นอย่างมาก โดยประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 38.20 สนับสนุน แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี คะแนนเป็นอันดับ 1 ทิ้งห่างจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้อันดับที่ 3 อยู่ที่ร้อยละ 15.65 โดย แพทองธารได้รับเสียงสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรีมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ถึงเท่าตัว นอกจากนี้ประชาชนส่วนหนึ่งยังสนับสนุน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รวมทั้ง เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยด้วย 

นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 49.75 ยังสนับสนุน ส.ส.แบบแบ่งเขตของพรรคเพื่อไทยมากเป็นอันดับหนึ่ง ทิ้งห่างจากพรรครวมไทยสร้างชาติที่อยู่อันดับ 4 หรือร้อยละ 5.40 รวมทั้งยังสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง หรือร้อยละ 49.85 ซึ่งยังทิ้งห่างพรรครวมไทยสร้างชาติซึ่งอยู่อันดับ 4 ได้คะแนนร้อยละ 4.95 อีกด้วย 

อนุสรณ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ไว้วางใจให้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับหนึ่งที่ยังครองใจประชาชนอยู่ทุกด้าน สะท้อนว่าพรรคเพื่อไทยคือความหวังที่จะช่วยให้พี่น้องประชาชนหลุดพ้นออกจากความทุกข์ที่สะสมมานานนับ 8 ปี และมีความหวังกับผู้นำของพรรค ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าผู้นำของพรรคเพื่อไทยได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนถึง 3 คนได้แก่ นพ.ชลน่าน แพทองธาร และเศรษฐา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เป็นความหวังของพี่น้องประชาชน ทั้งหมดถือเป็นกำลังใจให้พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นเดินหน้าทำงานต่อไปด้วยการนำเสนอนโยบาย ผ่านการลงพื้นที่พบปะ และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน สู่เป้าหมายที่พรรคเพื่อไทย มาขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน นำเอาชัยชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เพื่อนำพารัฐบาลที่มีความเข้มแข็ง มีเสถียรภาพ เป็นสถาบันการเมืองแห่งความหวังที่จะผลักดันนโยบายที่จะเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และขยายโอกาส กลับคืนสู่อ้อมกอดของพี่น้องประชาชน เป็นชัยชนะของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน