ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีหลายโรงเรียนทั่วประเทศจัดกิจกรรมชูสามนิ้ว-ป้ายต่อต้าน มีทั้งผ่านพ้นไปด้วยดี และมีหลายโรงเรียนที่ถูกบุคลากรของโรงเรียนคุกคาม ไปจนถึงมีเจ้าหน้าที่มาตามเก็บภาพเหล่านักเรียนไว้
ต่อไปนี้คือรายชื่อโรงเรียนที่จัดกิจกรรมชูป้าย ชูสามนิ้ว ชูกระดาษเปล่า แล้วถูกบุคลากรของโรงเรียนคุกคาม-ห้ามไม่ให้จัด ที่ได้จากการรวบรวม
นอกจากนี้ ยังมีความพยายามของผู้บริหารโรงเรียนบางแห่ง ที่หาวิธีทำให้นักเรียนไม่สามารถจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ภายในโรงเรียนได้ เช่น โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) นนทบุรี มีประกาศห้ามจัดกิจกรรมโดยบอกว่า โรงเรียนไม่มีนโยบาย และไม่มีการส่งเสริมกิจกรรมใดๆ ที่ส่อเจตนาให้เกิดความขัดแย้งกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือก่อให้เกิดความไม่สงบทางสังคม ดังนั้นเพื่อเป็นการธำรงรักษาไว้ซึ่งสังคมประชาธิปไตยในโรงเรียนแห่งรัฐ "ไม่ให้ใช้สถานที่ราชการในกิจกรรมทางการเมือง" จึงกำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่ภายในและภายนอกรั้วโรงเรียน คือ "โรงเรียนไม่อนุญาตและสนับสนุนให้ใช้พื้นที่ หรือบุคลากร หรือสวัดดุอุปกรณ์เพื่อการชุมนุม หรือการแสดงออกใดๆ หรือแอบอ้างชื่อโรงเรียนเพื่อการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้องตามตามครรลองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขทุกกรณี"
ส่วนที่โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน จัดฉีดไล่ยุงภายในโรงเรียนกะทันหันทำให้นักเรียนไม่สามารถทำกิจกรรมชูกระดาษเปล่าภายในโรงเรียนได้ อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองเฝ้าสังเกตการณ์รักษาความสงบเรียบร้อย
นายกสมาคมทนายความฯ ชี้เป็นสิทธิ นร.ชู 'สามนิ้ว'
ด้านนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่าการชูสามนิ้วและผูกโบว์สีขาวระหว่างเคารพธงชาติ เพื่อต่อต้านเผด็จการของนักเรียน นักศึกษาและประชาชน ถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการแสดงความเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์เพื่อประชาธิปไตย เป็นสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายและถือเป็นสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของคนไทยทุกคน ตามที่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ไว้ทุกประการ
มาตรา 4 บัญญัติว่า ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครอง
มาตรา 5 บัญญัติว่า รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎหรือข้อบังคับ หรือการกระทำใด ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติหรือการกระทำนั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้
มาตรา 25 บัญญัติว่า สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย นอกจากที่บัญญัติคุ้มครองไว้เป็นการเฉพาะในรัฐธรรมนูญแล้ว การใดที่มิได้ห้ามหรือจำกัดไว้ในรัฐธรรมนูญหรือในกฎหมายอื่น บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพที่จะทำการนั้นได้และได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ตราบเท่าที่การใช้สิทธิหรือเสรีภาพเช่นว่านั้นไม่กระทบกระเทือนหรือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และไม่ละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น
มาตรา 34 บัญญัติว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น การจำกัดสิทธิเสรีภาพดังกล่าวจะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นเฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ เพื่อคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันสุขภาพของประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง