วันนี้ (8 ตุลาคม 2568) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัย เผยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในภาคเหนือ ตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวม 19 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม ชัยภูมิ อุบลราชธานี อุดรธานี ยโสธร และจังหวัดฉะเชิงเทรา ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง ทีมปฏิบัติการ ปภ. และเครื่องจักรกลสาธารณภัยยังคงปฏิบัติ ภารกิจช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้กำชับให้จังหวัดเร่งเยียวยาประชาชนให้เป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีตามระเบียบหลักเกณฑ์ ครัวเรือนละ 9,000 บาท ให้ถึงมือประชาชนอย่างเร็วที่สุด

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องง พบว่าปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ภาคเหนือ ตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวม 19 จังหวัด รวม 94 อำเภอ 596 ตำบล 3,340 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 117,495 ครัวเรือน 389,656 คน และผู้เสียชีวิต 22 ราย (พิษณุโลก 1 ราย อุตรดิตถ์ 8 ราย เพชรบูรณ์ 1 ราย พิจิตร 1 ราย พระนครศรีอยุธยา 8 ราย ยโสธร 3 ราย)

โดยจังหวัดพิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ชัยภูมิ อุบลราชธานี อุดรธานี ยโสธร ระดับน้ำทรงตัว ส่วนที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุทัยธานี อ่างทอง สุพรรณบุรี ปทุมธานี ระดับลดลง จะมีจังหวัดฉะเชิงเทราที่ระดับน้ำเพิ่มขึ้น (ข้อมูล ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2568 เวลา 06.00 น.) ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยังคงให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ (7 ต.ค. 68) ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 8 กำแพงเพชร ได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ รถประกอบอาหาร รถผลิตน้ำดื่ม และเครื่องระบายน้ำเข้าช่วยเหลือจังหวัดพิจิตรที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว โรงเรียนบ้านปากทาง ต.ในเมือง ต.บ้านบุ่ง อ.เมืองพิจิตร และในเขตเทศบาลเมืองตะพานหิน อ.ตะพานหิน และในวันเดียวกัน ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 ลำปาง ได้สนับสนุนทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยลำเลียงถุงยังชีพไปยัง อ.เมือง อ.น้ำปาด และ อ.พิชัย เพื่อส่งมอบช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์

ในส่วนของพื้นที่ที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งให้ทุกจังหวัดเร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (คอภ.)